นนทบุรี – กระทรวงสาธารณสุข แถลง พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 122 คน (ลดจากยอดป่วยเพิ่มเมื่อวาน) ทำยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 721 คน ชี้ พบผู้ป่วยในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น จากการกลับภูมิลำเนา จึงขอให้กักตัวเอง อย่านำเชื้อไปติดคนที่บ้าน และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำเคร่งครัด
วันที่ 23 มีนาคม 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 ในฐานะโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ประจำวัน ว่า วันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น 122 คน ทำยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 721 คน เป็นรายที่ 600-721 รักษาหายกลับบ้านได้เพิ่มอีก 7 คน รวมเป็น 52 คน ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 668 คน เสียชีวิต 1 คน
แบ่งผู้ติดเชื้อเพิ่มออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 20 คน ได้แก่
♦ สนามมวย เพิ่ม 4 คน (พี่เลี้ยงนักมวย, ผู้ชม, กลุ่มสัมผัสใกล้ชิด)
♦ สัมผัสผู้ป่วยเดิม 16 คน กระจายไปหลายจังหวัด พบเป็นผู้ติดเชื้อตามงานสังสรรค์, ทำงาน
ทั้งนี้ จากสถานบันเทิงและผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 10 คน
♦ กลับจากต่างประเทศ 4 คน เป็นชาวต่างชาติ (ฝรั่งเศส 2 คน) คนไทย 2 คนโดยกลับจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา และประเทศเยอรมนี
♦ ผู้ทำงาน/อาศัยในที่แออัด/เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ/ใกล้ชิดคนจำนวนมาก ทำงานใกล้ชิดชาวต่างชาติ 6 คน (พนักงานสถานบันเทิง, ดีเจ, พนักงานขับรถรับ-ส่งชาวต่างชาติ) กระจายไปในหลายจังหวัด ทั้งกรุงเทพมหานคร กระบี่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ร้อยเอ็ด
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 92 คน
สำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรง อยู่ที่ 7 คน ทุกคนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ รักษาอยู่ สถาบันบำราศนราดูร ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.เพชรบูรณ์ และ ร.พ.เอกชน
สรุป
– มีผู้ป่วยติดเชื้อ 721 คน
– ผู้ป่วยติดเชื้อ เพิ่ม 122 คน
– รักษาหายแล้ว 52 คน
– ยังรักษาตัวอยู่ ร.พ. 668 คน
– ผู้ป่วยรุนแรง 7 คน (ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ) รักษาอยู่ สถานบันบำราศนราดูร ร.พ.ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ร.พ.สังกัด รร.แพทย์ และ ร.พ.เอกชน
– เสียชีวิต 1 คน
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ระบุอีกว่า ขณะนี้มีแนวโน้ม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่และในต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากประชาชนบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนา ทั้งก่อนและหลังที่จะมีประกาศปิดสถานที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผอ.โรงพยาบาล, นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อสม., ผู้นำชุมชน ทันทีทุกคน พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
ให้กักกันตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 14 วัน ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้อื่น เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด และแยกสำรับอาหาร สังเกตอาการหากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ รีบพบแพทย์ทันที
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาทิ ผู้ชม ผู้ทำงาน ในสนามมวย สถานบันเทิง ที่กลับไปภูมิลำเนา พ่อ แม่ ภรรยา สามี ลูก หลาน หรือผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มดังกล่าวมีโอกาสติดเชื้อได้ การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การกักกันตัวเอง รักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
ขอย้ำผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หากยังไม่มีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ให้กักกันตนเองอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างทางสังคม ที่สำคัญยังไม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพราะหากยังไม่มีอาการโอกาสตรวจพบเชื้อมีน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าตัวเองไม่ป่วย ยังคงมีกิจกรรมทางสังคม ขาดการระมัดระวังตัวเอง แต่หากเมื่อป่วยภายหลังจะทำให้ผู้ใกล้ชิดมีโอกาสรับเชื้อ กลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และเจ็บป่วยตามมาอีกจำนวนมาก จากข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการล่าสุดมีผู้มาขอรับการตรวจทั้งหมด 30,000 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้เป็นผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง (PUI) ประมาณ 10,000 ราย ผลยืนยันพบเชื้อเพียง 400 ราย
