กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ เริ่ม 26 มีนาคม 2563 จะดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ จริงจัง พร้อมขอความร่วมมือ ความรัก ความสามัคคี ความเสียสละ ของทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติโควิด-19 ไปให้ได้
วันที่ 25 มีนาคม 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยสรุปว่า
ช่วงเวลาหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้าต่อจากนี้ไป เราอาจจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่เลวร้าย และเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของประเทศไทย เวลานี้จะเป็นบททดสอบที่เราทุกคนไม่เคยเผชิญมาก่อน จนถึงวันนี้เราต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของภาวะวิกฤติจากไวรัสโควิด-19 สถานการณ์อาจจะทวีความรุนแรงและเลวร้ายมากขึ้นกว่านี้หลายเท่า จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมทั้งรายได้และการใช้ชีวิตของคนไทยทุกคน ด้วยเหตุนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อหยุดการแพร่ระบาดและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนทุกคนให้ได้
ตนเองจะเข้ามาบัญชาการ การจัดการกับไวรัสโควิด-19 ในทุกมิติอย่างเต็มตัว ทั้งการป้องกันการระบาด การรักษาพยาบาล ไปจนถึงการเยียวยา และฟื้นฟูประเทศ จากผลกระทบของโควิด-19 ผมจะเป็นผู้นำในภารกิจนี้ และรายงานตรงต่อประชาชนชาวไทยทุกคน โดยจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาด ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 เป็นต้นไป ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- นายก อบจ.ระยอง ประกาศลาออกก่อนครบวาระ 1 วัน พรัอมลงชิงชัยตำแหน่งนายก อบจ.ระยอง อีกหนึ่งสมัย
- นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอท่าฉาง พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย
- รมว.วธ. ยินดีกับ “หลานม่า”เข้ารอบชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 เป็น 1 ใน 15 เรื่องสุดท้าย
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
พร้อมยกระดับ ศูนย์การบริหารสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา ให้เป็นหน่วยงานพิเศษ แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อบูรณาการทุกส่วนราชการและสั่งการอย่างมีเอกภาพรวดเร็ว เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจ ขจัดปัญหาต่างคนต่างทำ โดยมีตนเองเป็นประธาน และแต่งตั้งบุคคลต่าง ๆ รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านต่าง ๆ
ทั้งนี้ จะมีการกำหนดห้ามเข้า-ปิดพื้นที่เสี่ยง ห้ามเข้าประเทศ ห้ามกักตุน ห้ามขึ้นราคาสินค้า ห้ามนำเสนอข่าวบิดเบือน ยืนยันจะไมมีการปิดร้านค้าที่ขายสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขอทุกท่านร่วมมือและเสียสละเพื่อส่วนรวม พร้อมขอให้ติดตามข่าวสารจากทางการ ซึ่งจะมีวันละครั้ง เพื่อลดความซ้ำซ้อน บิดเบือน เข้าใจผิด คลาดเคลื่อน ทางการ ตรงไปตรงมาโปร่งใสส่ ชัดเจน ขอให้สื่อมวลชนเพิ่มความรับผิดชอบในการรายงานข่าว ใช้ข้อมูลจากการแถลงประจำวัน แทนการขอสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่และบุคลาการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ ส่วนผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ขอให้ช่วยแชร์ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลที่ถูกต้อง ต่อต้านการแชร์ข่าวปลอม เตือนพวกฉวยโอกาสหาผลประโยชน์บนความทุกร้อน ความเป็นความตาย โดยจะใช้กฎหมายดำเนินการอย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และไม่ปรานี
“สัญญาจะเดินหน้าอย่างสุดความสามารถ นำพาประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้ ด้วยความปลอดภัยและสวัสดิภาพของคนไทยทุกคน ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นและร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน และเราจะชนะไปด้วยกัน” พลเอกประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: