นนทบุรี – กระทรวงสาธารณสุข แถลง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 111 ราย รวมสะสม 1,045 ราย โดยพบผู้ป่วยใน กทม.และปริมณฑลต่อเนื่อง รวมทั้งจังหวัดชายแดนใต้ และยังพบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่ม รวมเป็น 9 ราย
วันที่ 26 มีนาคม 2563 นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 111 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,045 ราย เสียชีวิตรวมเท่าเดิม 4 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 88 ราย อาการหนัก 4 ราย ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 953 ราย ซึ่งมีทั้งอาการไม่รุนแรงและปานกลาง ล่าสุด มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย รวมสะสม 9 ราย
ทั้งนี้ การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้หน่วงสถานการณ์ และหวังว่าตัวเลขผู้ป่วยอาจะไม่ถึง 3,500 คน ในเดือนเมษายน
โดยผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อเพิ่ม 111 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- รวบสาวใหญ่ซิ่งมอไซค์ขนยาบ้า 516,000 เม็ด
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 29 ราย
♦กลุ่มสนามมวย 6 ราย
♦กลุ่มสถานบันเทิง 3 ราย
♦กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 19 ราย
♦ผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 1 ราย (จ.ปัตตานี)
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยใหม่ 19 ราย
♦ผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศ 6 ราย (คนไทย 5 ราย ต่างชาติ ชาวอเมริกัน 1 ราย)
♦ทำงานในสถานที่แออัด/มีผู้คนจำนวนมาก 9 ราย (พนง.บริษัท พนง.ร้านนวด โรงแรม)
♦บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย ติดเชื้อสะสม 9 ราย
♦ปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 63 ราย
สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 4 ราย ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล กล่าวต่อว่า จากจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นทะลุหลักพันเร็วกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่ทั้งหมดยังทราบประวัติที่มาที่ไป โดยกลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ กลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายเก่าที่เคยรายงานแล้ว ทั้งกลุ่มสนามมวย กลุ่มสถานบันเทิง กลุ่มกลับจากงานบุญ พบประมาณ 20-30 รายต่อวัน แสดงว่าประชาชนกลุ่มเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ในบ้าน ทำให้นำโรคมาแพร่ให้ แม่ พ่อ สามี ภรรยา ลูก หลาน
ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาชีพทำงานสัมผัสกับชาวต่างชาติ ทำงานในสถานบันเทิง พบทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด วันละประมาณ 10-20 ราย แสดงถึงความตระหนักเรื่องการป้องกันตัวเองของประชาชนยังไม่ดีพอ ยังไม่งดการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ยังไปในพื้นที่คนแออัด ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่หมั่นล้างมือ
อย่างไรก็ตาม ยังพบผู้ป่วยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมาจากความรวดเร็วของระบบคัดกรองผู้ป่วย ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง เมื่อได้รับรายงานผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่จะเข้าไปค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้าระบบทันที ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยในกรุงเทพฯ และภาคใต้ได้ค่อนข้างสูง ส่วนภาคอื่น ๆ ยังมีผู้ป่วยประปรายเนื่องจากประชาชนยังไม่งดการเดินทาง
พร้อมกันนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำชับให้สถานพยาบาลทุกแห่ง เคร่งครัดมาตรการป้องกัน ควบคุมการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล ที่สำคัญหากผู้ป่วยปกปิดประวัติการเจ็บป่วย ประวัติความเสี่ยง จะส่งผลให้ผู้ให้บริการ แพทย์ พยาบาล เสี่ยงติดเชื้อโรคไปด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะกระทบต่อระบบการรักษาพยาบาล ทำให้มีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ กลายเป็นผู้ป่วย เป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง ต้องกักกันตัวเองทำให้ไม่มีบุคลากรเพียงพอที่จะดูแลผู้ป่วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: