นนทบุรี – กระทรวงสาธารณสุข แถลง ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รักษาหายกลับบ้านอีก 3 ราย ผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มเป็น 17 ราย ย้ำ ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง/มาจากพื้นที่เสี่ยง เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
วันที่ 28 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และนายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า วันนี้ มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้อีก 3 ราย รวมมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 100 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 1,139 ราย เสียชีวิต 6 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 1,245 ราย สำหรับผู้ป่วยเพิ่ม 109 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 39 ราย
♦สนามมวย 10 ราย
♦สถานบันเทิง 8 ราย
♦กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 21 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 17 ราย
♦กลุ่มที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ 8 ราย
♦กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แอ อัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 7 ราย
♦บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
- มุกดาหาร -เลขาธิการ ป.ป.ส. ควงแม่ทัพภาค 2 ลงเรือตรวจสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว จ.มุกดาหาร
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 53 ราย
สำหรับผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิง อายุ 55 ปี มีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวาน ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี และไขมันในเลือดสูง
ผู้ป่วยอาการหนัก 17 ราย มีอาการปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด รับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงเรียนแพทย์ กลาโหม และ กทม. 12 ราย ส่วนอีก 5 รายอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี เพชรบูรณ์ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ อายุระหว่าง 31-76 ปี และมีประวัติเสี่ยง ทำงานที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว อาทิ ขับรถบริการ พนักงานร้านนวด และไปสนามมวย ในจำนวนนี้ 1 ราย ต้องใช้เครื่อง ECMO (เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด) อาการอยู่ในภาวะวิกฤต
ผู้ป่วยรายใหม่ที่พบ นอกจากจะเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในสถานบันเทิง สนามมวย ที่มีรายงานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังพบเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ผู้มีอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด ใกล้ชิดสัมผัสกับชาวต่างชาติ แสดงให้เห็นว่าประชาชนบางส่วนยังไม่งดการเดินทาง และยังมีการป้องกันตัวเองไม่ดีพอในขณะทำงาน จึงขอย้ำเตือนให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งในที่ทำงาน และที่บ้าน โดยอยู่ห่างกันระยะ 1-2 เมตร สวมหน้ากากป้องกัน ล้างมือบ่อย ๆ แยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว
สำหรับผู้เดินทางจากพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ให้ปฏิบัติตามมาตรการเข้า-ออกเคหสถาน หรือสถานที่พำนักของตนเอง ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยอยู่ในที่พักอาศัย ไม่เดินทางออกนอกที่พักโดยไม่จำเป็น หากมีธุระจำเป็น เช่น การไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาตามนัด ให้ผู้ดูแลเป็นผู้ดำเนินการเลื่อนนัด และปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เรื่องการตรวจรักษาโรคประจำตัว เพื่อไปโรงพยาบาลเท่าที่จำเป็น เช่นรับยาใกล้บ้าน ทำธุรกรรมทางออนไลน์แทน
งดการไปในที่แออัดหรือที่ชุมนุมชน เช่น งานบุญ งานประเพณี พิธีทางศาสนา การประชุม การไปร้านอาหาร ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า งดการใช้ขนส่งสาธารณะ หากจำเป็นต้องเดินทางควรใช้รถส่วนตัว และเมื่ออยู่นอกที่พักอาศัยต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หากรู้สึกไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัว ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือหอบเหนื่อย ให้รีบบอกผู้ดูแลหรือคนในครอบครัว เพื่อรับการตรวจรักษา ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: