กรุงเทพฯ – รองนายกฯวิษณุ เครืองาม ระบุ เวลาเคอร์ฟิวให้ยึดทั้งของรัฐบาลและจังหวัด ปฏิบัติตามเวลาที่เข้มงวดกว่า อนาคตจะปรับให้ตรงกัน และอาจขยายเวลาเพิ่ม ชี้ ฝ่าฝืนมีทั้งโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 3 เมษายน 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยชี้แจงถึงการประกาศห้ามออกจากเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว ตามข้อกำหนดฉบับที่ 2 ตั้งแต่เวลา 22.00–04.00 น. ว่า ถ้า 6 ชั่วโมง ยังไม่ได้ผล หรือพิสูจน์ว่าได้ผลดี อาจขยับขึ้นเป็น 8–10 ชั่วโมงต่อไป เชื่อว่าจะลดการแพร่ระบาดลงได้ เพราะส่วนใหญ่คนจะออกมาเวลาว่าง คือ ช่วงเวลากลางคืน เช่น สถานบันเทิง งานเลี้ยง
โดยใน 6 ชั่วโมงที่ประกาศ ไม่ควรมีผู้ใดออกมาเดินบนถนนหรือร้านกาแฟ จะมีกำลังตำรวจและทหารคอยตรวจตรา ถ้าไม่ได้อยู่ในประเภทยกเว้น จะผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ติดคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าจังหวัดใด ผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งหรือคำแนะนำที่เข้มงวดกว่าข้อกำหนดในเคอร์ฟิว ให้ปฏิบัติในส่วนที่เข้มงวดกว่า เช่น บางจังหวัดประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ 3 ทุ่ม ก็ให้ปฏิบัติตามนั้น และวันหนึ่งจะปรับให้ทุกจังหวัดมาอยู่ในเกณฑ์เดียวกัน ประชาชนจะได้ไม่สับสน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับบุคคลที่ได้รับการยกเว้น มี 2 ประเภท ที่ไม่ได้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เป็นบุคคลทั่วไป เช่น ผู้ที่มีภารกิจหรือปฏิบัติหน้าที่ด้านการแพทย์ รวมถึงคนไข้ คนเจ็บ ผู้ป่วย ผู้ที่มีอาชีพหรือหน้าที่ขนส่งสินค้า อุปโภค บริโภค ขนส่งอาหารสด แห้ง หรือรถขนส่งนำเข้าและส่งออก แกร็บ ไลน์แมน ธุรกิจการเงิน ธนาคาร เช่น คนขับรถขนเงินไปเติมในตู้เอทีเอ็ม หรือการขนส่งหนังสือพิมพ์ ตลอดจนที่ต้องขนส่งคนไปที่กักกัน หรือคนที่ทำงานเป็นกะ ผลัด ราชการ หรือ โรงงาน
แต่จะต้องมีเอกสารรับรองติดตัว และบัตรประจำตัวประชาชน โดยเอกสารที่เป็นสำเนาเผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบย้อนหลัง หากเอกสารรับรองที่สำเนาให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละด่านจนหมด เจ้าหน้าที่สามารถถ่ายรูปเอกสารรับรองมาตรวจสอบย้อนหลังได้
อีกประเภทที่ยกเว้นให้เป็นการเฉพาะ คือ บุคคลที่มาขออนุญาตเฉพาะราย เช่น รายที่ไม่ได้เขียนไว้ในข้อกำหนด ถ้าจำเป็นต้องขออนุญาต เช่น คนกรีดยางอาชีพประมง ขณะนี้กำลังรวบรวมว่ามีอาชีพใดบ้าง
สำหรับอาชีพสื่อมวลชน ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น
“จนถึงนาทีนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้ปิดประเทศ เพราะคำว่าปิดประเทศคือการปิดสนามบิน เครื่องบินจะลง จะขึ้นไม่ได้ แต่เราได้เข้มงวดและเคร่งครัด คนไทยที่อยู่นอกประเทศยังสามารถกลับเข้าประเทศไทยได้ เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย และได้อนุญาตให้กลุ่มคนไทยบางกลุ่มที่กำลังจะเดินทางเข้ามาอยู่แล้ว สนามบินจึงปิดไม่ได้ เช่น คนไทยจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งเป็นนักเรียนไทยซึ่งไปเรียนช่วงสั้น ๆ” นายวิษณุ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากแจ้งว่า ในส่วนการส่งสินค้าเข้า-ออกทางเครื่องบินยังทำได้ปกติ ไทยเหมือนครัวโลก ต้องส่งอาหารไปให้ต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เราก็ต้องสั่งของจากต่างประเทศเช่นกัน
