กรุงเทพฯ – กระทรวงวัฒนธรรรม ออกประกาศแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ เทศกาล พิธีทางศาสนา และพิธีการต่าง ๆ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องแจ้งพนักงานระดับชุมชนหมู่บ้าน จัดจุดคัดกรองสวมใส่หน้ากากอนามัย
กระทรวงวัฒนธรรม ออกข้อควรปฏิบัติในการจัดงานเทศกาล พิธีทางศาสนา และพิธีการต่าง ๆ เนื่องจากเห็นว่าเป็นกิจกรรมการรวมตัวกันของคนหมู่มาก อาจเกิดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน กรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจัดงานได้ ดังนี้
1.งดหรือเลื่อนการจัดงานเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่าง ๆ ที่เป็นการรวมตัวของคนจำนวนมาก
2.กรณีไม่สามารถงดหรือเลื่อนการจัดงานนั้น ๆ ได้ ให้ปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้
ข่าวน่าสนใจ:
– ต้องไม่ขัดต่อประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรการที่รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กำหนด รวมทั้งประกาศ หรือคำสั่งที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
– แนวทางการปฏิบัติทั่วไป
สำหรับผู้จัดงาน
♦ต้องแจ้งเจ้าพนักงานหรือหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคระดับหมู่บ้านหรือชุมชน
♦ต้องระบุข้อความบัตรเชิญร่วมงานว่า “ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งให้นำบัตรประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้มาด้วย และหากมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ ให้งดการมาร่วมงานโดยเด็ดขาด”
♦ต้องจัดให้มีจุดคัดกรองและตรวจวัดไข้ผู้เข้าร่วมงาน หากตรวจพบผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา แนะนำให้ไปพบแพทย์โดยทันที
♦ต้องจัดลงทะเบียน หรือบันทึก ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ พร้อมทั้งบันทึกภาพผู้เข้าร่วมงาน
♦ต้องจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลทางเข้างาน จุดต่าง ๆ รอบบริเวณงาน และสำรองหน้ากากอนามัยไว้ให้บริการ
♦ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ และพื้นที่บริเวณจัดงาน ที่ผู้เข้าร่วมงานต้องสัมผัสบ่อย ๆ หรือใช้ร่วมกัน
♦ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดงานให้สั้นที่สุด
♦ต้องรีบแจ้งและจัดส่งรายชื่อผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดต่อกระทรวงสาธารณสุขในทันที หากทราบภายหลังว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-1) เข้าร่วมงาน
♦งดจัดงานเลี้ยงทุกประเภท
♦งดจัดให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
♦งดการแสดง ดนตรี มหรสพ หรือเต้นรำทุกชนิด
สำหรับผู้ร่วมงาน
♦ต้องแต่งกายมิดชิด เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล โดยต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในงาน
♦ต้องเว้นระยะห่างการนั่งหรือยืนไม่น้อยกว่า 2 เมตร
♦ต้องปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือด้วยน้ำสะอาดและสบู่เหลว
♦ต้องทำความสะอาดมือ อุปกรณ์สื่อสารและของใช้ส่วนตัวที่พกติดตัวมาในงาน เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ทันทีที่ออกจากงาน
♦ต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายโดยทันที เมื่อกลับถึงที่พัก
♦งดเข้าร่วมงานหากมีอาการป่วย และให้รีบไปพบแพทย์ หรือเดินทางกลับจากต่างประเทศยังไม่ครบ 14 วัน และ/หรือ สัมผัสกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย
♦งดคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ร่วมงานอื่น ๆ ที่ไม่มีการป้องกันตนเอง
– แนวทางการปฏิบัติเป็นการเฉพาะ
♦งานมงคลสมรส ต้องปฏิบัติตาม ต้องจำกัดจำนวนคนรดน้ำสังข์ให้น้อยที่สุด เช่น บิดา-มารดา ญาติผู้ใหญ่ หรือแขกผู้ใหญ่เท่านั้น และต้องจัดแถวเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า 2 เมตร งดพิธีแห่ขันหมาก งดหรือเลื่อนจัดงานเลี้ยงฉลองทุกประเภท
♦งานพิธีการศพ ลดจำนวนวันสวดพระอภิธรรมศพให้น้อยที่สุด และใช้เวลาสวดให้น้อยที่สุด ต้องจัดอาสนะสงฆ์ ให้มีระยะห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า 1–2 เมตร จำกัดจำนวนคนร่วมพิธีแห่ศพเวียนเมรุให้น้อยที่สุด จัดระยะห่างเก้าอี้นั่งสำหรับแขก เดินเวียนเมรุ เดินขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ไม่น้อยกว่า 2 เมตร ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หากเป็นกรณีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อโควิด-19 และต้องปฏิบัติตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี หากเป็นกรณีศาสนาอิสลาม
– วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ควรงดการเข้าร่วมกิจกรรม ณ ศาสนสถาน โดยให้ใช้ช่องทางสื่อสารออนไลน์แทน เช่น การฟังธรรมออนไลน์ งดการใช้มือหยิบข้าวใส่บาตรพระภิกษุ
– เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ (เช็งเม้ง) ให้งดการเดินทางไปกราบไหว้ ณ สุสาน (ฮวงซุ้ย) โดยให้จัดพิธีกราบไหว้ที่บ้านแทน และงดการรวมญาติ
-เทศกาลประเพณีสงกรานต์
♦งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ
♦งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา รดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ แสดงความกตัญญูกตเวที หรือแสดงความปรารถนาดีต่อกัน ผ่านโทรศัพท์ หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์
♦งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยเด็ดขาด
♦ให้ปฏิบัติเฉพาะภายในครอบครัวเท่านั้น อาทิ สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน รดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ที่บ้านโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของญาติผู้ใหญ่ที่สูงอายุ และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
มีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765
ขอบคุณภาพประกอบจาก : วัดสูงแคน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: