กรุเทพฯ – คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ก. 3 ฉบับ ให้กระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงิน 1 ลลบ. ให้แบงก์ชาติออกวงเงินกู้ 5 แสน ลลบ. พร้อมร่าง พ.ร.บ.โอนงบฯ 63 ไว้ที่งบกลาง เพื่อเยียวยาดูแลผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19
วันที่ 7 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ และร่างพระราช (พ.ร.บ.) 1 ฉบับ เพื่อเยียวยาแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกมิติ ประกอบด้วย
ฉบับที่ 1 ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท เป็นสกุลเงินบาทภายในประเทศ กำหนดเวลาการกู้ต้องให้เสร็จภายใน 30 ก.ย.2564 หรือ 1 ปี 6 เดือน จะไม่เป็นการกู้ครั้งเดียว แต่เป็นการทยอยกู้ ตามวัตถุประสงค์การใช้งบประมาณ แบ่งเป็น
♦แผนดูแลด้านสาธารณสุขและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 6 แสนล้านบาท โดย เยียวยาประชาชนเป็นเวลา 6 เดือน เยียวยาเกษตรกร และดูแลด้านสาธารณสุข
♦การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอีก 4 แสนล้านบาท ครอบคลุมโครงการดูแลสนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่
ฉบับที่ 2 ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกวงเงินกู้ (ซอฟต์โลน) 500,000 ล้านบาท เพื่อดูแลภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยเป็นสินเชื่อใหม่ 5 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% สำหรับเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท
ฉบับที่ 3 ร่าง พ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพการเงิน 400,000 แสนล้านบาท โดยจะมีการตั้งกองทุนรวม และให้ ธปท.ซื้อขายหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าว วงเงิน 4 แสนล้านบาท
ฉบับที่ 4 ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 วงเงิน 80,000 – 100,000 ล้านบาท ไว้ที่งบกลาง
อย่างไรก็ตาม สำหรับร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต่อไป โดยทุกกระทรวงจะต้องกันงบฯ ที่ไม่จำเป็น มาต่อสู้โควิด-19 สำหรับงบประมาณปี 2564 จะทบทวนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
