กรุงเทพฯ – โฆษก ศบค. ระบุ คนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวน้อยลง ส่วนใหญ่ดื่มสุรา เผย ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงชี้ชัด การประกาศเคอร์ฟิวและงดขายเหล้า ส่งให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
วันที่ 12 เมษายน 2563 ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง รายงานสถานการณ์ ภายหลังการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด (เคอร์ฟิว) โดยข้อมูล ณ วันที่ 12 เม.ย. พบคนฝ่าฝืนออกนอกเคหสถานลดลง มี 926 คน ลดจากเมื่อวาน 139 คน ชุมนุมมั่วสุม จาก 109 คน เหลือ 58 คน ฐานความผิดที่พบมากสุด คือ ดื่มสุรา ในพื้นที่นครบาลพบมากสุด ซึ่งต้องได้รับโทษทางกฎหมาย
วันนี้ ตัวเลขและสถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะหลังประกาศเคอร์ฟิวมาครบ 9 วัน จนถึงวันที่ 12 เม.ย. พบว่าสถานการณ์ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ต้องดูกันต่อไป เช่นเดียวกับ การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายละเอียดพบว่า ผู้ป่วยรายใหม่ที่พบจากกลุ่มก้อนสนามมวยลดลง โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มก้อนสนามมวยเป็นศูนย์ ถือว่าควบคุมได้ดี เช่นเดียวกับกลุ่มก้อนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 158 คน ที่เมื่อเข้าระบบกักตัวก็สามารถคุมได้อย่างดี จึงยืนยันได้ว่าเป็นผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ที่เข้มข้นขึ้น และประชาชนให้ความร่วมมือจึงเห็นผล
ข่าวน่าสนใจ:
โฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการงดขายเครื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ล่าสุด มี 73 จังหวัด ที่ประกาศห้ามขายสุราแล้ว หลายคนอยากให้ประกาศทั้งประเทศและให้ทุกคนเลิกดื่มสุราในช่วงสงกรานต์นี้ ส่วนตัวก็อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการแต่ละจังหวัด ซึ่งต้องมีมาตรการรองรับด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องขอความร่วมมือประชาชน ลดการตั้งวงก๊งเหล้า ทุกคนจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้
ทั้งนี้ ยังต้องลุ้นว่าช่วงสงกรานต์ จะเป็น 7 วันอันตรายของผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ แม้มีคำสั่งห้ามเล่นน้ำทุกสถานที่แล้ว แต่อาจมีคนเล่นตามบ้านเรือน ซึ่งสุ่มเสี่ยง เพราะถ้ายังรดน้ำดำหัวแและเล่นน้ำสงกรานต์ จะทำให้ติดเชื้อจากการใกล้ชิดกัน การฉีดน้ำ และเล่นน้ำ เพราะนอกจากสารคัดหลั่งแล้ว น้ำอาจปนเปื้อนเชื้อจากบุคคล จนเป็นพาหะของเชื้อโควิด-19 ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: