กฟผ. เตรียมพร้อมมาตรการเข้ม นำเข้า LNG 65,000 ตัน 21 เม.ย.นี้ ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่หน่วยผลิต มาเลเซีย ตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค
นางราณี โฆษิตวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุถึงการเตรียมความพร้อม นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG) หรือแอลเอ็นจี ลำเรือที่ 2 แบบตลาดจร (Spot) ปริมาณ 65,000 ตัน จากบริษัท PETRONAS LNG ประเทศมาเลเซีย ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กฟผ. ตระหนักและให้ความสำคัญ พร้อมปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันแพร่ระบาด ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ซึ่งตลอดการดำเนินงาน เตรียมความพร้อมตั้งแต่ต้นทาง Load LNG จนถึงวันส่งมอบ กฟผ. ได้ติดต่อประสานงานผ่านการประชุมทางไกลระบบวิดีโอ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่า การดำเนินงานจะเป็นไปตามขั้นตอน และไม่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค
การนำเข้า LNG ลำเรือที่ 2 โดยเรือ Seri Angkasa ประเทศมาเลเซีย จะเดินทางมาเทียบท่าเรือ PTT LNG อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ในวันที่ 21 เมษายนนี้ ลูกเรือและผู้เกี่ยวข้องทุกคน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันหรือลดผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และข้อกำหนดของสถานี PTT LNG นอกจากนี้ กฟผ. ยังจะตรวจสอบเอกสารการตรวจรับ LNG ผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์) และในขั้นตอนการ Load ก๊าซธรรมชาติเข้าระบบ เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า กฟผ. ทีมงาน กฟผ. ทุกคน ได้เฝ้าติดตามการบริหารจัดการเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติผ่านโปรแกรมเรียกรับก๊าซของ PTT LNG และ PTT TSO เพื่อให้การบริหารจัดการเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การนำเข้า LNG ลำเรือที่ 2 จะนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ชุดที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนนี้ เป็นต้นไป
“จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กฟผ. อยู่ระหว่างการทบทวนแผนการจัดหา LNG ในระยะกลางระหว่างปี 2563–2565 ซึ่งได้ผ่านมติคณะกรรมการ กฟผ. เมื่อเดือนมกราคม เห็นชอบให้จัดหา LNG แบบ Spot เพิ่มเติม เพื่อเสริมความมั่นคงในการจัดหาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ และเกิดการแข่งขันเสรีก๊าซธรรมชาติ และคาดว่าจะสามารถนำเสนอทางด้านนโยบายเพื่อขอความเห็นชอบในลำดับถัดไป” ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง กล่าว
