กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของ โรงพยาบาลสนาม ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็น Hospitel แห่งแรกของไทย ขอบคุณทุกฝ่ายที่เสียสละ
วันที่ 19 เมษายน 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เดินทางไปยัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แห่งแรกของประเทศไทย ที่อาคารดีลักซ์ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรับผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา
โดยติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมจัดระบบการรับผู้ป่วย ยา เวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์อย่างครบครัน พร้อมนำหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์มาร่วมด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้ โดยไม่ต้องสัมผัส หรืออยู่ใกล้ผู้ป่วยมากเกินไป
โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ นำร่องโดย รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมมือกับ รพ.ศิริราช รามาธิบดี จุฬาลงกรณ์ และวชิรพยาบาล สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 308 เตียง เพื่อลดความแออัดของ รพ.รัฐ ทั้ง 5 แห่ง ซึ่งหลังจากผู้ป่วยเข้ารับการตรวจ และพักดูอาการอย่างน้อย 48-72 ชั่วโมงแล้ว พบว่าไม่มีภาวะวิกฤติที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรืออยู่ห้องไอซียู จะถูกนำมาส่งเพื่อพักรักษาตัวที่ รพ.สนามแห่งนี้
แต่ผู้ป่วยเกิดภาวะวิกฤติ จะมีทีมแพทย์ฉุกเฉินคอยช่วยเหลือส่งตัวรักษาต่อ ใน รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ซึ่งขยายแผนกรองรับผู้ป่วยวิกฤติได้ถึง 60 คน ใช้ระยะเวลาเคลื่อนย้ายเพียง 5 นาที
ที่ผ่านมา รพ.ได้สร้างการรับรู้เพื่อความเข้าใจ ป้องกันไม่ให้เกิดข้อกังวลจากชุมชน นักศึกษา หรือผู้ป่วย มาตลอด
โดยอาคารดีลักซ์ ที่รับผู้ป่วย ได้ปิดกั้นให้เป็นสถานที่ปลอดเชื้อ 100 % แะเนื่องจากไวรัสโควิด-19 แพร่โดยคนสู่คน ไม่แพร่ทางอากาศ ดังนั้น โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ จึงปลอดภัยและไม่มีการแพร่เชื้อออกมาภายนอก 100 % สำหรับนักศึกษาหรือบุคลากรจำนวนหนี่ง ที่พักในอาคารดีลักซ์ ได้จัดหาห้องพักให้ใหม่แล้ว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ บุคลากรทุกคน ที่เสียสละทุ่มเทอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพี่อดูแลผู้ป่วยอย่างดีตลอด 24 ชม. รวมทั้งขอบคุณนักศึกษาและบุคลากร ที่เคยพำนักอยู่ในอาคารนี้ ที่เสียสละให้อาคารนี้นำมาดัดแปลงเป็น Hospitel
ค่ำวานนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจพื้นที่ ปทุมวัน ทองหล่อ สุทธิสาร และห้วยขวาง ตามลำดับ ขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน และเข้มงวด ตามข้อกำหนดและมาตรการ โดยได้พูดคุยกับประชาชนที่จำเป็นต้องออกจากบ้านช่วงเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากต้องพาลูกไปโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเหตุจำเป็นยกเว้น
