กรุงเทพฯ – โฆษก ศบค. ชี้ ยังไม่ยกเลิกมาตรการป้องกันโควิด-19 เหตุหลายประเทศในอาเซียน ยังมีผู้ติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก แจง งบฯ สาธารณสุข 45,000 ล้านบาท จะนำไปใช้บำบัด รักษา ป้องกัน และกระจายรายได้สู่ประชาชนให้ได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
วันที่ 22 เมษายน 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวกรณีประชาชนบางส่วนตกอยู่ในภาวะเครียดจากปัญหาว่างงานและปัญหาหนี้สิน ในช่วงโควิด-19 ระบาดว่า ศบค. และรัฐบาลห่วงใย เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินได้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ แนวทางแก้ไข คือ ต้องควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสให้ได้ เพื่อลดการสูญเสีย โดยเฉพาะชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อ ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนใกล้ชิด เมื่อลดจำนวนผู้ป่วยได้ ก็สามารถนำงบประมาณที่ใช้ในด้านสาธารณสุข ไปดูแลเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยืนยันว่า สุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ และพร้อมเยียวยาเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย
โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า ในส่วนบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับการจัดสรร 45,000 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่ไว้ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเดียว เพราะตอนนี้สถานพยาบาลมีอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงพอ จึงจะนำงบประมาณบางส่วนมาใช้จ้างงาน จ่ายค่าชดเชย เยียวยา ค่าเสี่ยงภัยแก่บุคลากร หรือจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการรองรับการบำบัด รักษา ป้องกัน ควบคุมโรค เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ประชาชน ในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้น
สำหรับรณีบางจังหวัด เริ่มเตรียมผ่อนปรนมาตรการ หรือมีมาตรการผ่อนปรนให้ผู้ค้ากลับมาขายของที่ตลาดเพื่อมีรายได้ และหากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเหลือเพียงหลักเดียว จะมีการยืดหยุ่นและผ่อนปรนมาตรการมากกว่านี้ โฆษก ศบค.ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยืนยันว่า การผ่อนปรนมาตรการจำเป็นต้องใช้ชุดข้อมูล สถิติ จากสาธารณสุข รวมถึงความร่วมมือจากทุกด้าน ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ขณะนี้ยังไม่มียกเลิกใช้มาตรการ เพียงแต่จะเป็นการผ่อนปรน ถึงแม้ตอนนี้ประเทศไทยจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่ในหลายประเทศโดยรอบ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีการแพร่ระบาดในระดับน่าเป็นห่วง และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากประมาท จำนวนผู้ป่วยติดเชื้ออาจกลับมาสูงได้อีก
นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุอีกว่า การควบคุมโรคถือความมั่นคงภายในประเทศ สถานที่ที่จะกลับมาเปิดให้บริการได้ ขึ้นอยู่กับสถิติของกรมควบคุมโรคและความจำเป็น เช่น ร้านตัดผม หากเปิดให้บริการ ต้องมีมาตรการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจ ทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสสู่กันและกัน กรณีบางจังหวัดจะทดลองผ่อนปรนมาตรการบางพื้นที่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละจังหวัด ที่จะนำนโยบายหลักไปปฏิบัติให้เหมาะสม หากจังหวัดใดประชาชนให้ความร่วมมือ ดูแลทั่วถึง อาจทดลองผ่อนปรนมาตรการ อย่างไรก็ตาม ขอให้รอมติคณะรัฐมนตรี และมติจากทาง ศบค. ในรายละเอียดต่าง ๆ
