กรุงเทพฯ – โฆษก ศบค. ปฏิเสธข่าวลือ 1 พ.ค.นี้ จะปลดล็อกพื้นที่ 32 จังหวัด มีแต่จะยืดระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตือน อย่าหย่อนมาตรการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันเชื้อ
วันที่ 23 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ปฏิเสธกรณีมีกระแสข่าวการเตรียมปลดล็อคพื้นที่ 32 จังหวัด ในวันที่ 1 พ.ค.ที่จะถึงนี้ว่า ขณะนี้ ศบค. ยังไม่มีการประกาศใด ๆ และจะต้องประชุมศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน รวมถึงกำหนดมาตรการต่าง ๆ และต้องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ สำหรับแนวโน้มขณะนี้ คือ การยืดระยะเวลาของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอย่างแน่นอน แต่อาจผ่อนปรนบางกรณี ซึ่งต้องรอมติคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
สำหรับการปรับลดด่านตรวจในช่วงเวลาเคอร์ฟิว และจำนวนผู้กระทำผิดกรณีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น ออกนอกเคหสถาน มั่วสุม ยังมีจำนวนมากอยู่นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นเชิงรุก โดยจัดตำรวจสายตรวจ ตระเวนตรวจตามพื้นที่ในชุมชน รวมถึงรับเบาะแสร้องเรียนจากประชาชนที่แจ้งเข้ามา หากคนในชุมชนร่วมมือแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือเป็นการช่วยตำรวจทำงานด้วย เบื้องต้น อาจเป็นการตักเตือน แต่ถ้าเป็นการมั่วสุม เล่นการพนัน จำเป็นต้องนำตัวไปดำเนินคดี
โฆษก ศบค. ยังกล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่พบประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ที่อาจจะไม่ได้มีการเว้นระยะห่าง อาจจะทำให้โรคโควิด-19 แพร่กระจายได้ว่า บุคคลที่จำเป็นจะต้องออกจากบ้าน ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด อย่าหย่อน ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือหลังจากสัมผัสสิ่งของ กินร้อน ใช้ช้อนตัวเอง ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด จะต้องศึกษาระเบียบการปฏิบัติของแต่ละจังหวัด เนื่องจาก ศบค.มอบอำนาจบางเรื่องให้แก่จังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็น ผอ. ศบค. ประจำจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดเป็นเลขานุการ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่จังหวัดนั้นกำหนดขึ้นมา อย่างไรก็ตาม มาตรการห้ามเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับการขนส่งทางอากาศทำได้ แต่ต้องมีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: