กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี รายงานผลการหารือ 7 สมาคมภาคธุรกิจ พร้อมขอบคุณ ‘ทีมไทยแลนด์’ ย้ำจะติดตามข้อสั่งการด้วยตนเอง
วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 18.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และผลการไปพบสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ หลังวิกฤตโควิด-19 ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความประทับใจ บุคลากรด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล พนักงานส่วนงานต่าง ๆ ในสถานพยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน หรือ อสม.ทั่วประเทศ รวมถึงบุคลากรในภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการให้ความร่วมมือ และการมีวินัยของคนไทยทุกคน ทั้งการหมั่นล้างมืออยู่เสมอ และการใส่หน้ากากอนามัย โดยไม่ต้องมีกฏหมายบังคับเหมือนในบางประเทศ
และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดการวิกฤตเรื่องปากท้อง นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ ด้วยตนเอง ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นสมาคมที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงคนทำมาหากินทั่วประเทศ ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้พบปะกันมาก่อน แต่รู้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิด-19
ข่าวน่าสนใจ:
- ศึกษาธิการระยอง จับมือเทคนิคระยอง และศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง จัดกิจกรรมโครงการเรียนดี มีความสุขสู่อนาคตที่สดใส
- ผบช.สตม.ปล่อยแถว ตม.ทั่วประเทศ กวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2568
- "ชวนน้องหนูมาดูโขน" 11 ม.ค. ฟรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568
- THACCA ร่วมกับ วธ. สนับสนุน 220 ล้านบาท ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซอฟต์พาวเวอร์ไทย
โดยขอให้เล่าความเดือดร้อน รวมทั้งแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพราะต้องการรับฟังโดยตรง เพื่อเข้าใจความเดือดร้อนที่แท้จริงที่เกิดขึ้น เป้าหมาย คือ หาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้า ที่จะสามารถทำได้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้นก่อน ทำให้รู้ว่ามีผู้มีความรู้ความสามารถมากมาย ที่เชี่ยวชาญและรู้ชัดว่า ต้องทำอย่างไรกับภาคธุรกิจของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น ความรักความห่วงใยประเทศ ไม่เพียง “ขอ” ความช่วยเหลือให้แก่ภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ยังนำเสนอสิ่งที่จะดีสำหรับประเทศชาติด้วย
นายกรัฐมนตรี สรุปผลที่ได้จากการพบปะหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้
♦ประการแรก ได้สั่งการเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะกำหนดให้ซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการเล็ก ๆ ในท้องถิ่นต่าง ๆ เงินจะถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่มเอสเอ็มอีทั่วประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานรับรองตามกฎหมาย โดยจะต้องจัดทำบัญชีผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อพิจารณา เช่น การขึ้นบัญชีนวัตกรรม ที่ดำเนินการมาแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ได้สั่งการนี้เกิดขึ้นจริง โดยให้หน่วยงานภาครัฐทำรายงานให้รับทราบตอนสิ้นปี นอกจากนั้น ขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่าง ๆ หากต้องซื้อของ หรือใช้บริการอะไร ขอให้ช่วยกันสั่งซื้อของและใช้บริการจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศ เนื่องจากกลุ่มเอสเอ็มอี สร้างงานสร้างอาชีพให้แก่พี่น้องมากกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย
♦ประการที่สอง ผลจากการหารือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้รับทราบว่า สถานที่ค้าขายต่าง ๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างร้าน ต่างต้องการให้รีบเปิดสถานที่ค้าขายโดยเร็วที่สุด เพื่อกลับมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง โดยตัวแทนของภาคธุรกิจได้เล่าถึงวิธีการ และความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดที่ห้างร้านต่าง ๆ ได้เตรียมการกันไว้อย่างเข้มงวด ทำให้สบายใจในระดับหนึ่ง และได้สั่งการ เริ่มเปิดห้างร้านต่าง ๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณสำหรับการลงทุนและความเข้มงวด ที่ทุกคนพยายามช่วยกันดูแลรักษาสุขอนามัยให้ได้อย่างเหมาะสม
♦ประการที่สาม ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้บอกชัดเจนว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ประเด็นนี้ อยากบอกกับทุกคนว่า รับทราบและเข้าใจความต้องการ ซึ่งจะดำเนินการตามที่ท่านเสนอ เมื่อเห็นว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ลดลงไปอยู่ในระดับที่จะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ เพราะสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมากก็คือ ถ้าเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้เร็วเกินไป หากนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาด้วย ทุกอย่างที่ทำมาได้ดีทั้งหมดจะเสียเปล่า แล้วจะต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ปิดทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนในประเทศ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หาจุดสมดุลของการดูแลเรื่องสาธารณสุข และการช่วยเหลือเรื่องการทำมาหากินของประชาชน อยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมนึกถึงพี่น้องนับล้าน ๆ คนที่ต้องพึ่งพา หารายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว อยู่ตลอด โดยจะเริ่มสนับสนุนให้มีธุรกิจท่องเที่ยวและบริการภายในประเทศได้เร็ว ๆ นี้
♦ประการที่สี่ ได้สั่งการและสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐพิจารณาการใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วสำหรับการจัดประชุมสัมมนา ขอให้ออกไปใช้สถานที่ หรือโรงแรมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผมหวังว่านี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยได้กำชับด้วยว่า ขอให้เลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายและมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย
♦ประการที่ห้า จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้ทราบว่า มีแรงงานในบางภาคธุรกิจ และในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานกลับไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ จึงได้สั่งการให้มีการดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม
♦ประการที่หก ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้รับทราบถึงสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจมากที่สุด มากกว่าโควิด-19 นั่นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการไปแล้วว่าให้หาวิธีการรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ก่อน โดยทันที อะไรที่ทำแล้วจะช่วยได้บ้าง ก็ขอให้ทำไปก่อน ซึ่งขอแจ้งให้ทราบว่า จากข้อมูลและข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขณะนี้ตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังจัดทำแผนปฏิบัติที่ตรงจุด ซึ่งจะนำเสนอให้พิจารณาเร็ว ๆ นี้ และจะมารายงานให้ทุกท่านทราบในโอกาสต่อไป
♦ประการที่เจ็ด จากที่ได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สำคัญให้ผมทราบ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฏหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของการประกอบอาชีพ ซึ่งเห็นด้วยในหลายเรื่อง แต่ด้วยมีความซับซ้อนอยู่หลายประเด็น จึงสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา แล้วรายงานให้ทราบโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุด คือ จะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และ ประมงพื้นบ้าน เข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย เพื่อให้ได้ยินเสียงจากคนที่ทำมาหากินอยู่ในอาชีพจริง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้หาวิธีแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และรวดเร็ว
นายกรัฐมนตรีย้ำในช่วงท้ายว่า การเดินทางไปพบปะสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ได้พบกับบุคคลที่น่าประทับใจหลายคน ซึ่งขอขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทย และที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษก็คือ การที่หลายคนไม่เพียงมีความห่วงใยในภาคธุรกิจของตนเอง แต่ยังห่วงใยต่อประเทศด้วย นี่คือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็งต่อไป ขอบคุณครับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: