กรุงเทพฯ – สสว. จับมือ 4 พันธมิตร หนุนขับเคลื่อนสหกรณ์ไทย สู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจฐานราก ด้วยสหกรณ์ 4.0
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ด้วยการให้ชุมชนได้เรียนรู้ และเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ สสว. จึงจัดทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากยุค 4.0 ภายใต้แนวคิด ‘พลิกสหกรณ์ไทยสู่สหกรณ์ 4.0’ แบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ปีนี้ สสว. กำหนดทิศทางการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร โดยมีเป้าหมายที่สหกรณ์ 100 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สหกรณ์ภาคการเกษตร ที่มีความพร้อมพัฒนาตนเอง เตรียมตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่ ในยุค 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ และเป็นสหกรณ์ต้นแบบที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ ไปเผยแพร่เป็นแหล่งเรียนรู้ระหว่างสมาชิกสหกรณ์ต่อไปในอนาคต
ผอ.สสว. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว บูรณาการความร่วมมือผ่าน 4 พันธมิตร ได้แก่ สสว. กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่ ดังนี้
ข่าวน่าสนใจ:
สสว. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการ และได้มอบให้สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) เป็นหน่วยร่วมดำเนินการ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมคัดเลือกสหกรณ์ที่มีความพร้อมระดับปานกลางและทั่วไปที่มีศักยภาพจำนวนกว่า 100 แห่ง เพื่อเข้าร่วมโครงการ
ทีเส็บ ร่วมผลักดันแหล่งผลิตและสินค้าสหกรณ์พร้อมสู่การออกตลาดในประเทศและต่างประเทศ
บมจ.บางจาก ที่พร้อมร่วมพัฒนาทักษะความเป็นผู้ประกอบการผ่านโมเดลธุรกิจใหม่ให้กับสหกรณ์เพื่อต่อยอดสินค้าเกษตรให้มีนวัตกรรมสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการกระจายสินค้าสู่ช่องทางเครือข่ายของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการสร้างสหกรณ์ 4.0
“สสว. มอบหมายให้ ISMED เป็นหน่วยร่วมดำเนินการในการพัฒนาสหกรณ์ ด้วยกระบวนการอบรมและเพิ่มเติมองค์ความรู้ผ่านการศึกษาดูงานที่สามารถนำไปปรับใช้กับสหกรณ์ได้ พร้อมการนำอัตลักษณ์ของตนเองมาสร้าง หรือปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสอดคล้องกับยุคปัจจุบัน โดยมีทีมที่ปรึกษาให้คำแนะนำเชิงลึก เพื่อให้สหกรณ์สามารถจัดทำแผนธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจใหม่ที่ปฎิบัติได้จริง โดยสหกรณ์ที่มีผลงานโดดเด่นจะได้รับการคัดเลือกเป็นสุดยอดสหกรณ์ต้นแบบ หรือ COOP Select ที่พร้อมเข้าสู่การต่อยอดทางการตลาดแพลทฟอร์มต่าง ๆ จากทาง สสว. และเครือข่ายพันธมิตร” นายวีระพงศ์ กล่าว
ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโยบาย ส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานของสถาบันเกษตรกร ทั้งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของมวลสมาชิกและชุมชน ในปีนี้ กรมฯ มีโครงการและกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน สหกรณ์รวบรวมสู่กระบวนการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และส่งเสริมการตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภค
ความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์กับ สสว. ครั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมคัดเลือกสหกรณ์ภาคการเกษตรที่มีศักยภาพในการแปรรูปสินค้าเกษตร จำนวน 100 แห่ง เข้าสู่กระบวนการพัฒนาตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากยุค 4.0 เพื่อให้สหกรณ์เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิด ด้วยวิธีดำเนินการแบบโมเดลธุรกิจยุคใหม่ สามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมเผชิญความเปลี่ยนแปลง สนับสนุนให้สหกรณ์มีช่องทางและโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ มีเครือข่ายที่เข้มแข็ง โดยมีเป้าหมายให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ต่อไป
ส่วนนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มสหกรณ์เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ เพื่อพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ดังนั้น โครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากยุค 4.0 ที่จัดโดย สสว. และเครือข่ายพันธมิตร จึงเป็นการทำงานที่ช่วยเติมเต็มภารกิจของโครงการฯ และเป้าหมายของทีเส็บอย่างเหมาะสม โดยสหกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพสู่สหกรณ์ 4.0 ทีเส็บ จะทำหน้าที่ต่อยอดสินค้าและบริการให้มีความเหมาะสมพร้อมต้อนรับและบริการนักธุรกิจที่เข้ามาศึกษาดูงานหรือเยี่ยมชม ตามภารกิจของทีเส็บที่จะนำไปต่อยอดสร้างช่องทางการตลาดการขายใหม่สำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: