กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ชี้ ต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจอีกนาน เผย มอบ 5 แนวทางทำงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจและดูแลประชาชนให้รัฐมนตรีใหม่ เตรียมเดินหน้าฟังความเห็นทุกภาคส่วนและเชิญมันสมองชั้นยอดหารือ ‘รวมไทยสร้างชาติ’
วันที่ 13 สิงหาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เรื่อง ‘ครม.ใหม่ และการเดินหน้าประเทศ’
โดยกล่าวถึงการนำรัฐมนตรีใหม่ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับตำแหน่ง วานนี้ (12 ส.ค.63) พร้อมให้แนวทางการทำงานแก่รัฐมนตรี 5 ข้อ เพื่อดูแลคนไทย ประกอบด้วย
งานที่ 1 ต้องเยียวยาความเจ็บปวดที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ต่อไปอีก โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ที่ต้องตกงานในช่วงที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
- นายกฯ "อิ๊ง" เปิดงานออนซอนกลองยาวชาววาปี สานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี
- นายกฯ พบปะนักเรียนจากทั่วอีสาน ชูโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน" เพิ่มโอกาสชีวิต
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
งานที่ 2 ต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ ในแนวทางที่จะช่วยประเทศอย่างยั่งยืน โดยต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลกจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เงินเยียวยากันไปตลอด ดังนั้น เราต้องเริ่มทำโครงการที่จริงจัง ทำให้ได้ ที่จะช่วยแก้ปัญหาปัจจุบัน นอกจากนั้น ต้องเตรียมการที่จะสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจให้ได้อย่างยั่งยืน เมื่อโลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราต้องทำโครงการที่ถูกต้อง ตอบโจทย์ปัญหาต่าง ๆ และเราจะต้องใช้เงินที่มีอยู่อย่างเหมาะสม และให้ความช่วยเหลือไปถึงคนที่ต้องการจริง ๆ โดยใช้กลไก โครงสร้าง คณะกรรมการ และศูนย์บริหารสถานการณ์ที่มีการทำงานบูรณาการกัน ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
งานที่ 3 ต้องสร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงการจ้างงานลูกจ้างของเขาต่อไป และให้ธุรกิจต่าง ๆ ใช้ช่วงเวลานี้ พลิกองค์กรของตัวเองให้กลายเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น
งานที่ 4 ต้องมีแผนเรื่องการจ้างงานคนรุ่นใหม่ นักศึกษาจบใหม่จำนวนมากกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน พวกเขาจำเป็นต้องมีงานทำ
งานที่ 5 งานที่เกี่ยวกับการทำงานต่าง ๆ เหล่านี้ จะต้องทำด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกคนในสังคมมีบทบาทหน้าที่ ที่จะช่วยกันนำพาประเทศ ก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปให้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด โดยไม่ได้มองว่าอยู่ในการเมืองหรือไม่ ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นส่วนหนึ่งของการ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ และตอนนี้ กำลังเดินหน้า ดึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่อยู่ในภาคส่วนอื่น ๆ ของสังคม ให้มาช่วยกันคิดและขับเคลื่อนประเทศด้วย
ซึ่งในเดือนนี้และเดือนหน้า จะเริ่มทำ workshops (การประชุมเชิงปฏิบัติการ) กับภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะเข้ามานำเสนอวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนภาคส่วนของเขา นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับโอกาสที่เขามองเห็น และมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของรัฐบาล ในการสนับสนุนภาคส่วนนั้น ๆ ให้เดินหน้าได้เร็วยิ่งขึ้น โดยจะเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอของทุกภาคส่วนด้วยตัวเอง เพราะต้องการเข้าใจประเด็นต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อสั่งการให้ภาครัฐให้การสนับสนุนภาคส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม และให้ช่วยกำจัดอุปสรรคที่ดึงรั้งภาคส่วนต่าง ๆ เอาไว้ สิ่งที่ต้องการสำหรับประเทศไทย คือ เมื่อถึงเวลาที่วิกฤตโควิด-19 เริ่มหายไป ประเทศไทยจะไปอยู่ในจุดที่จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว สร้างโอกาสการจ้างงานมหาศาล และอยู่ในจุดที่ดีขึ้นกว่าก่อนที่โควิดจะเกิดด้วยซ้ำ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: