วันที่ 14 ตุลาคม 2563 การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฏร 63 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมรถเครื่องขยายเสียง ได้ปิดถนนราชดำเนินขาออก โดยผู้ชุมนุมนำสีสเปรย์พ่นข้อความต่าง ๆ ลงบนถนน บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมผลักดันตำรวจที่พยายามตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยออกนอกพื้นที่ ขณะเตรียมเคลื่อนขบวน
เวลาประมาณ 13.00 น. เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฏร 63 และกลุ่มเสื้อเหลือง โดยมีการขว้างปาขวดน้ำ โดยเฉพาะขวดแก้ว และสิ่งของใส่กัน รวมถึงการชกต่อยกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ทราบจำนวนและอาการ อย่างไรก็ตาม การ์ดของกลุ่มคณะราษฎร 63 พยายามขอร้องกลุ่มมวลชน ให้กลับไปยังฐานที่ตั้ง
เจ้าหน้าที่พยายามเข้าระงับเหตุ และแยกกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากกัน พร้อมขอคืนพื้นผิวจราจร และกระชับมวลชน
เวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 63 เข้ายึดพื้นที่ บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิไตยและโดยรอบ พร้อมขนย้ายต้นไม้ที่กรุงเทพมหานครประดับไว้ออกมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่นจัดงานแถลงข่าว เทศกาลสุดออนซอนแห่งปี! “PlaraMorlum” Isan to the World ระหว่างวันที่ 26-29 ธันวาคม 2567 ณ ขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- กระบะซิ่งหนีสายตรวจ แหกโค้งพุ่งลงคูน้ำดับ ยกคัน 7 ศพ พบเป็นแรงงานต่างด้าว หลายราย
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
เวลา 14.20 น. แกนนำขึ้นเวทีบนรถปราศรัย เรียกรวมพลเพื่อเคลื่อนขบวน จากบริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิไตย ไปยังทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 14.30 น. ใช้เส้นทางถนนราชดำเนินนอก ผ่านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งมีกลุ่มประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลืองปักหลักเฝ้ารอรับเสด็จอยู่ โดยมีการปะทะคารมกันเกือบตลอดเส้นทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรึงกำลังรักษาความสงบ ชุดควบคุมฝูงชน รั้วเหล็ก และด่านรถเมล์ ขสมก. ที่ปิดเส้นทางไว้
ต่อมา มีการเจรจาระหว่างแกนนำผู้ชุมนุม น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว กับ ตำรวจ เรื่องเส้นทางการเคลื่อนขบวน ซึ่งตำรวจยืนยันไม่ให้ใช้เส้นทางถนนราชดำเนิน แต่ให้เลี่ยงไปใช้ถนนนครสวรรค์แทน ทางแกนนำยินยอม ตำรวจจึงเปิดทางให้เข้าไปสู่ถนนนครสวรรค์ เพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล แจ้งให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เร่งออกจากทำเนียบฯ เพื่อกลับบ้าน หนีกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังเดินทางไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: