กรุงเทพฯ – เลขา กพฐ. เผย ผอ.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ยืนยัน ไม่ได้กดดันหรือไล่เด็กออก หลังชู 3 นิ้วระหว่างทำกิจกรรมถวายบังคมในวันปิยมหาราช ขณะที่แม่ยอมรับ เป็นผู้ยื่นทางเลือกให้ลูกเอง หากไม่ปรับประพฤติกรรม
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ เลขา กพฐ. ชี้แจง กรณีปรากฎข่าวในสื่อออนไลน์ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช บังคับให้ผู้ปกครองนักเรียนเขียนบันทึกลาออกจากโรงเรียน ด้วยเหตุนักเรียนไม่ยอมถวายบังคม ขณะร่วมพิธีวางพวงมาลาในวันปิยมหาราช เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ว่า วานนี้ (24 ต.ค.) ได้รับรายงานจาก นายสมบูรณ์ เรืองแก้ว ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 (ผอ.สพม.12 ) หลังจากผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน รายงานให้ทราบแล้ว
ทั้งนี้ วันปิยมหาราช เป็นวันสำคัญของโรงเรียนเบญจมราชูทิศ เนื่องจากโรงเรียนนี้จัดตั้งตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 5 โดยชื่อโรงเรียนก็ได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีความหมายว่า “สร้างอุทิศแด่พระมหากษัตริย์องค์ที่ 5” และในวันดังกล่าว โรงเรียนได้จัดพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม หน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เช่นทุกปี เพื่อสร้างจิตสำนึกคุณลักษณะความกตัญญูรู้คุณแก่เด็กนักเรียน
“โดยกิจกรรมนี้ ทางโรงเรียนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพียง และในระหว่างประกอบพิธีถวายบังคมพระบรมรูปพร้อมกันนั้น เด็กนักเรียนรายนี้ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โครงการห้องเรียนพิเศษ English Program ได้ยืนตรงชูสามนิ้ว โดยไม่ร่วมถวายบังคมพร้อมกับนักเรียนคนอื่น” นายอัมพร กล่าว
เลขา กพฐ. กล่าวต่อว่า เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ โรงเรียนให้นักเรียนเดินทางกลับ โดยครู หรือผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือน หรือเรียกนักเรียนมาพบ
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
นอกจากนี้ ในช่วงสายของวันเดียวกันนั้น คุณแม่ของนักเรียนรายนี้ ได้โทรศัพท์ติดต่อมายัง นายภูตินันทน์ เฮ้งศิริ รองผู้อำนวยการโรงเรียน ด้านงานกิจการนักเรียน แต่นายภูตินันทน์ไม่ได้รับสาย ต่อมา ในช่วงหลังบ่ายโมงของวันเดียวกันนี้ คุณแม่ของนักเรียนโทรติดต่อกลับมาหา รองผู้อำนวยการโรงเรียนอีกครั้ง และได้พูดคุยกัน
โดยคุณแม่บอกว่ารู้สึกหนักใจที่ไม่สามารถปรับพฤติกรรมของลูกได้ และได้แสดงเจตนาที่จะให้นักเรียนลาออก ซึ่งรองผู้อำนวยการได้แสดงความเห็นใจ และเข้าใจต่อพฤติกรรมของนักเรียน เนื่องจากเป็นวัยที่เรียนรู้จากเพื่อน เหมือนวัยรุ่นทั่วไป และบอกคุณแม่ว่าไม่จำเป็นต้องลาออกจากโรงเรียน พร้อมกันนั้น ยังได้ให้กำลังใจ และให้คำแนะนำว่า ปัญหาของลูกคุณแม่ เป็นเพียงปัญหาเรื่องทัศนคติทางการเมืองเท่านั้น ไม่ต้องเครียดอะไรมาก
เลขา สพฐ. เปิดเผยอีกว่า ช่วงเวลาหลัง 21.00 น. ของวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ครูประจำชั้นอ่านเจอโพสต์ข้อความของนักเรียนที่ปรากฏในสื่อโซเชี่ยล ด้วยความเป็นห่วงจึงโทรหานักเรียนรายนี้ นักเรียนแจ้งว่า คุณแม่ของนักเรียนเองต้องการให้นักเรียนลาออก ครูประจำชั้นจึงขอคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ของนักเรียนโดยตรง
“จากการพูดคุย คุณแม่บอกกับคุณครูประจำชั้นว่า คุณแม่เครียดและหนักใจกับพฤติกรรมของลูกมาก จึงได้ยื่นข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหานี้กับลูกของตัวเองว่า มี 2 ทางเลือกให้ลูกเลือก คือ ลูกต้องปรับพฤติกรรมตนเอง โดยกลับมาตั้งใจเรียน เป็นเด็กน่ารักเหมือนตอนเรียนชั้น ม.1 หรือหากลูกไม่ปรับพฤติกรรม แม่จะไปขอลาออกจากโรงเรียนเอง ขณะเดียวกัน ครูประจำชั้นยังได้สอบถามคุณแม่ว่า มีผู้บริหารหรือครูท่านใดโทรไปแจ้ง หรือกดดันคุณแม่ตามที่ลูกโพสต์หรือไม่ คุณแม่นักเรียนยืนยันว่าไม่มี“
นายอัมพร กล่าวถึงรายงานที่ได้รับ
เลขา กพฐ. ยังย้ำด้วยว่า ได้สอบถามไปยัง นายภักดี เหมทานนท์ ผอ.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช แล้ว ได้รับคำยืนยันว่า โรงเรียนไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับเด็กนักเรียนรายดังกล่าว และไม่ได้ไล่เด็กออกตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ด้าน ผอ.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ชี้แจงว่า หลังทราบข่าวทางออนไลน์ ได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องการลาออกจากโรงเรียน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ปรากฎว่าผู้ปกครองนักเรียนรายดังกล่าว มาแจ้งความประสงค์ให้ลูกลาออกจากโรงเรียน และไม่มีผู้บริหารหรือครูคนใด แจ้งให้ผู้ปกครองมาเขียนบันทึกลาออกให้นักเรียน ที่ต้องออกมาแจ้งข้อเท็จจริง เพราะเกรงถึงการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนและการแปรเจตนาที่ผิดไปสู่บุคคลภายนอก ถ้าคุณพ่อคุณแม่ของนักเรียน จะเข้ามาพบตนเองในวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563 นี้ ก็ยินดี เพราะเด็กยังเป็นนักเรียนของโรงเรียนอยู่ ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ใด ๆ และพร้อมช่วยกันหาทางออกแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ผอ.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ยังยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ มีเด็กนักเรียนในโรงเรียนจำนวนหนึ่ง ได้แสดงออกรูปแบบดังกล่าว ในระหว่างการเคารพธงชาติ ซึ่งทางโรงเรียนก็เปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกทางความคิดที่เห็นต่าง และการแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน จนปัจจุบันเด็กเหล่านี้แสดงออกในรูปแบบดังกล่าวลดน้อยลง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: