กรุงเทพฯ – โฆษก ศบค. เผย โควิด-19 แพร่ 45 จังหวัด ย้ำยังไม่ล็อกดาวน์ จะใช้มาตรการป้องกันเดิมไปก่อน แต่ถ้า 7 วันยอดยังไม่ลด จะยกระดับมาตรการ เผย มท.สั่งแบ่งพื้นที่ระดับอำเภอถึงตำบล เพื่อเอ็กซเรย์
วันที่ 29 ธันวาคม 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันว่า การแพร่ระบาดในประเทศแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ การติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคล มีทั้งที่ทราบว่าตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยง อยู่ในกิจกรรมเสี่ยง รวมถึงผู้ที่ไม่ทราบและไม่ระวังว่าสัมผัสผู้ติดเชื้อ และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ การติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน มีสาเหตุมาจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง เช่น งานเลี้ยงสรรค์ การประชุม และกิจกรรมที่ลักลอบดำเนินการ เช่น การพนัน การมั่วสุม ที่สร้างความเจ็บปวดให้คนไทย เพราะตัวเลขที่ติดเชื้อกันมาก ๆ เพราะจุดนี้
แต่ยืนยันจะยังไม่ล็อกดาวน์ ยังจะใช้มาตรการป้องกันเดิมไปก่อน คือ การจัดแบ่งเป็น 4 พื้นที่ ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อจัดแบ่งพื้นที่ ที่ประกาศออกมาในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ พร้อมสั่งการให้แบ่งพื้นที่ในระดับ อำเภอ ตำบล เพราะบางจังหวัดไม่ได้ระบาดทั้งจังหวัด เช่น จ.ระยอง มีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดเฉพาะ อ.เมืองระยอง ที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก อำเภออื่นก็ไม่จำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมถึงจังหวัดที่อยู่ติดกัน จะได้ไม่ต้องเป็นพื้นที่ควบคุม
การแยกอำเภอและตำบลยังทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต โดย ศบค.มท. ศบค.สธ. และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะร่วมกันประเมินกำหนดพื้นที่ภายในจังหวัด และประกาศให้ประชาชนทราบภายใน 1-2 วันนี้ ที่สำคัญ คือ ต้องมีชุดกำกับดูแลสถานประกอบการที่มีความเสี่ยง เร่งค้นหาจับกุมบุคคลที่มั่วสุมผิดกฎหมาย หากใครรู้เบาะแสสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมได้ทันที
โฆษก ศบค. ระบุอีกว่า นับจากนี้ไปอีก 7 วัน ศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. (ศปก.ศบค.) ขอความร่วมมือประชาชนอย่างเข้มข้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น ศปก.ศบค.จะพิจารณาขออนุมัติ ศบค.ชุดใหญ่ ในการปรับปรุงมาตรการ เพราะถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ เอกชนย่อหย่อน จะต้องทบทวนมาตรการทั้งหมด แต่ถ้าร่วมมือกันดีก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใด ๆ สำหรับเทศบาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ที่หลายคนยังสับสนว่าจะเดินทางได้หรือไม่ และจัดกิจกรรมได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ขณะนี้มีบางจังหวัดประกาศปิดบางสถานที่ จนต้องปรับเปลี่ยนมาตรการ เช่น กทม. ส่วนจังหวัดอื่นที่มีการติดเชื้อทั้ง 45 จังหวัด จะต้องติดตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด
“อย่างไรก็ตาม ปีใหม่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะมีตัวเลขติดเชื้อกัน 2-3 หลัก เราจำเป็นต้องปรับตัวเองมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรขณะนี้ไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์อย่างแน่นอน เพราะจะกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกเว้นเฉพาะบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ควบสูงสุด ดังนั้น เราจึงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ฉลองกันภายในครอบครัว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
