กรุงเทพฯ – โฆษก ศบค. ชี้ ผู้ติดเชื้อก้อนใหญ่ 198 คน เกี่ยวข้องสถานบันเทิงทั่วประเทศ เผย เตรียมออกประกาศ ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด กำหนดพื้นที่ห้ามจัดงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ เว้นทำกันในครอบครัว
วันที่ 30 ธันวาคม 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่า ตอนนี้มี 48 จังหวัดแล้ว ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยที่เพิ่มมาอีก 3 จังหวัด คือ จ.ระนอง อำนาจเจริญ และตราด จากสถิติ พบผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย กลุ่มติดเชื้ออายุเฉลี่ย 40 ขึ้นไป สำหรับการติดเชื้อในประเทศวันนี้ (30 ธ.ค.) ที่มี 241 คนนั้น มี 9 คนโยงกับกรณี ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ส่วนผู้ติดเชื้ออีกก้อน มีประวัติเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง โดยเฉพาะก้อนใหญ่ 198 คน พบไปทั่วประเทศ และที่ จ.ชลบุรี มีมากถึง 108 คน ยังไม่มีการสอบสวนโรคในรายละเอียด แต่ยอมรับว่ามีความเชื่อมโยงกับเรื่องการลักลอบเล่นการพนัน
สำหรับการจัดกิจกรรมเคานต์ดาวน์ปีใหม่ ซึ่งหลายที่ประกาศยกเลิกจัดกิจกรรมไปแล้ว แต่อีกหลายที่ยังไม่ยกเลิก จะต้องทำอย่างไรเพราะเกรงว่าตัวเลขติดเชื้อจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ศบค.เตรียมจะออกประกาศคำสั่ง ให้มีผลตั้งแต่ วันนี้ (30 ธ.ค.63) ดังนี้
1.ห้ามมั่วสุม สุ่มเสี่ยง ลักษณะแพร่เชื้อโรค หรือการกลั่นแกล้งแพร่เชื้อโรค ทั่วราชอาณาจักร ห้ามชุมนุม จัดกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) เว้นกิจกรรมภายในครอบครัว หรือกิจกรรมของทางราชการเท่านั้น
2.การจัดกิจกรรม หรือชุมนุม ในพื้นที่เฝ้าระวัง หรือพื้นที่ควบคุม (สีเหลืองและสีเขียว) สามารถทำกิจกรรมได้ แต่ต้องได้รับอนุญาต หรือทำกิจกรรมกันในครอบครัว ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นผู้ออกประกาศ กำหนดว่าพื้นที่นั้น ๆ เป็นพื้นที่โซนสีใด
“บรรยากาศช่วงปีใหม่นี้ อาจไม่ใช่เคานต์ดาวน์ แต่เป็นเคานต์อัพ คือ นับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นแน่นอน เราไม่อยากเห็นภาพการล็อกดาวน์ ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนประชาชนที่เดินทางข้ามจังหวัด ไปในพื้นที่เสี่ยงสูงสุด ต้องกักตัว 14 วัน หรือไม่ โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจังหวัดต้นทาง ว่ามีประกาศข้อกำหนดอย่างไร แต่ทางดีที่สุด คือ ช่วงปีใหม่นี้ให้อยู่บ้าน อยู่กับครอบครัว เลี่ยงเดินทาง ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องระมัดระวังตัว และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทุกคนต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: