กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้า ระยะเร่งด่วน ฉีดวัคซีนต้านโควิด “ฟรี” ให้ประชาชนให้ได้อย่างน้อย 50% หรือ ครึ่งประเทศภายในปีนี้ ส่วนระยะยั่งยืนจะตั้งศูนย์การผลิตในประเทศ
วันที่ 6 มกราคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ https://www.facebook.com/prayutofficial แจ้งรายละเอียดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้คนไทย สรุปว่า
รัฐบาลมีแผนการฉีดวัคซีน “ฟรี” เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนชาวไทยให้ได้อย่างน้อย 50% หรือครึ่งประเทศภายในปีนี้
โดย “ระยะเร่งด่วน” จะได้รับวัคซีนฯ ล็อตแรก 2 ล้านโดส จากบริษัท ซิโนแวค ประเทศจีน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนนี้ ซึ่ง 2 แสนโดสแรก (เดือนกุมภาพันธ์ 64) ตั้งเป้าจะฉีดให้แก่กลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุก่อน จากนั้น เดือนมีนาคมและเมษายน จะได้รับอีก 8 แสนโดส และ 1 ล้านโดส ตามลำดับ
ข่าวน่าสนใจ:
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- "เบิร์ด ธงไชย" ศิลปินแห่งชาติ ร่วมสืบสานนาฏศิลป์สยาม ชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
นอกจากนั้น รัฐบาลยังสั่งจองจากบริษัท แอสตราเซเนกา อีก 26 ล้านโดส กำหนดรับมอบภายในเดือนพฤษภาคม และจัดหาเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ซึ่งจะทยอยอนุมัติและส่งมอบต่อไป (รวมเป็น 63 ล้านโดส) เพื่อสร้าง “ความมั่นคงด้านสุขภาพ” ให้กับชาวไทย ขอย้ำว่า “คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี”
สำหรับ “ระยะยั่งยืน” จะตั้งศูนย์การผลิตในประเทศอยู่ที่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีโรงงานอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างใหม่ โดยได้การรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาแล้ว สามารถผลิตวัคซีนตามมาตรฐานของอ็อกฟอร์ดและแอสตราเซนเนกา โดยมีกำลังการผลิตที่ 200 ล้านโดสต่อปี
นอกจากนี้ คณะแพทยศาสตร์และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังจะเป็นอีกแหล่งผลิตภายในประเทศ ที่มีองค์ความรู้ มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนที่ทันต่อวิวัฒนาการของเชื้อโรคได้ในอนาคต สร้าง “ความมั่นคงด้านสาธารณสุข” และส่งเสริมบทบาทให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด หรือวัคซีนโรคอื่น ๆ ในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า “ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส” ใครที่มีวิสัยทัศน์ สร้างความพร้อม ย่อมได้รับประโยชน์ โดยในวิกฤตโควิดนี้ หากเราทำตามสิ่งที่ตนเองเล่ามาได้ ก็จะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางด้านการแพทย์ (Medical Hub)” ได้อีกด้วย แต่ระหว่างรอกระบวนการ รอรับวัคซีน ตามระยะเวลาที่บอก ขอให้พวกเราทุกคนระมัดระวังในการใช้ชีวิต อย่าประมาทกับเชื้อโรค ช่วยกันอีกครั้ง หยุดเชื้อเพื่อชาติ ต้องสวมหน้ากากเสมอ เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราและคนรอบข้างที่เรารัก รวมถึงประเทศไทยของเรา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: