ลำปาง – รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจติดตามการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม กฟผ.แม่เมาะ พร้อมมอบนโยบายจังหวัด แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันในพื้นที่ ด้าน ผวจ.ลำปาง เผย ค่าฝุ่นจากโรงไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ย้ำ สาเหตุหลักเกิดจากการเผาไหม้ป่านายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เข้าตรวจติดตามการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการพื้นที่ของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยมี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นางราณี โฆษิตวานิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. ผู้บริหาร กฟผ. หัวหน้าส่วนราชการ จ.ลำปาง ให้การต้อนรับและรายงานสรุปภาพรวม การดำเนินงานและการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติของ จ.ลำปาง ตลอดจนการดำเนินงานของ กฟผ.แม่เมาะ ณ อาคารประชาสัมพันธ์แม่เมาะ กฟผ.แม่เมาะ นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสำรวจสภาพและความพร้อมของอุปกรณ์ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษในพื้นที่ด้วย
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าชมสภาพจริงของ กฟผ.แม่เมาะ แม้มีอาณาเขตค่อนข้างใหญ่ แต่น่ายินดีที่ กฟผ. กำหนดมาตรการการควบคุมการปล่อยมลสารให้เป็นไปตามมาตรฐาน สำหรับปัญหาหมอกควันได้มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลตรวจตราพื้นที่ให้ดี โดยเฉพาะจุดที่อาจเกิดไฟป่าได้ง่าย จะต้องลาดตระเวนจุดที่มักเกิดการลักลอบเผาป่า ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ มีมาตรการเข้มงวดในการยกเลิกสัมปทานที่ทำการเผาป่าเพื่อรุกล้ำพื้นที่ อีกทั้งยังได้กำหนดนโยบาย ชิงเก็บ ลดเผา เพื่อหวังช่วยลดปัญหาฝุ่นควันด้วยด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ทุกช่วงของต้นปี พื้นที่ภาคเหนือจะประสบปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันมาตลอด จ.ลำปาง เป็นจังหวัดในลำดับต้น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากพื้นที่ถูกขนาบด้วยหุบเขาขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีต จ.ลำปาง มีค่าจุดความร้อน (Hot Spot) อยู่ในเกณฑ์ที่สูง จึงได้กำหนดเป้าหมายในการลดจุด Hot Spot โดยจังหวัดกำหนดนโยบายควบคุมอย่างเข้มงวด จนทำให้ในปี 2563 สามารถลดปัญหาด้านฝุ่นละอองลงได้ถึง 64% และลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ 24%
ผู้ว่าฯ ลำปาง กล่าวต่อว่า กฟผ.แม่เมาะ เป็นแหล่งอุตสาหกรรม ที่มีทั้งการทำเหมืองและโรงไฟฟ้า จึงอาจถูกเข้าใจคลาดเคลื่อนจากสาธารณชนว่า เป็นศูนย์กลางในการปล่อยฝุ่นควันของภาคเหนือ ซึ่งข้อเท็จจริงพบว่า กฟผ.แม่เมาะ ควบคุมค่าของฝุ่นควันที่ออกจากโรงไฟฟ้าได้ดีกว่าที่เกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด และจากการศึกษาวิจัยร่วมกับทีมงานยังพบว่า ปัจจัยหลักของฝุ่นละอองเกิดจากการเผาไหม้ป่า
ขณะที่ นางราณี โฆษิตวานิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.แม่เมาะ มีการควบคุมและเฝ้าระวังมลภาวะจากการทำเหมืองและโรงไฟฟ้า ไม่ให้เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคมของทุกปี พื้นที่บริเวณภาคเหนือมักมีสภาพอากาศที่แห้งแล้งจึงเกิดไฟป่าได้ง่ายและมีการเผาเศษซากวัชพืชทางการเกษตรในพื้นที่โล่งจนทำให้เกิดปัญหาหมอกควัน กฟผ. จึงมีมาตรการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการรับมือและปฏิบัติตัวให้เหมาะกับสถานการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: