กรุงเทพฯ – นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลังเจอพิษโควิด-19 ทั้งรายใหญ่รายย่อย แนะภาครัฐต้อง “เกาให้ตรงจุด” เยียวยาให้ถูกทาง ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาระยะสั้น
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเตรียมเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ ก่อนที่ผู้ประกอบการจะแบกรับภาระไม่ไหว จนต้องทยอยปิดกิจการเพื่อความอยู่รอดและสร้างปัญหาคนตกงานตามมา
นายปริญญ์ ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรก ทั้งปิดกิจการ ให้พนักงานหยุดงานแบบไม่จ่ายค่าแรง หรือจ่ายค่าแรงเพียงครึ่งเดียว เนื่องจากแบกภาระไม่ไหว เพราะมาตรการภาครัฐที่ช่วยเหลือสามารถเยียวยาได้แค่ระยะสั้นเท่านั้น
พร้อมกันนี้ มีโอกาสพบกับ นางกมลา สุโกศล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทและโรงแรมในเครือสุโกศล นายกฤษดา สุโกศล แคลปป์ (น้อย วงพรู) นักร้องชื่อดังและผู้บริหารกิจการโรงแรม เดอะ สยาม, นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย รวมถึงนางอลิสา พันธุศักดิ์ เจ้าของธุรกิจทิฟฟานี่โชว์ พัทยา เพื่อรับฟังมุมมองในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ต้องเผชิญภาวะวิกฤตจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาใช้บริการ และไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมมาเกือบหนึ่งปีเต็ม แต่ยังคงไม่ทอดทิ้งพนักงาน
ข่าวน่าสนใจ:
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- "รัฐสภา" ร่วมสนับสนุนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “พระจักราวตาร”
- รมว.ท่องเที่ยว ชวนลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำฯ" สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- ททท. จัดงานใหญ่ "วิจิตรเจ้าพระยา 2024" สวยงามตระการตา กระตุ้นการท่องเที่ยวส่งท้ายปีนี้
กลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว มีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจต่อภาครัฐ คือ รัฐบาลต้องเร่งออกนโยบายกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ เช่น อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 แล้วสามารถเข้าประเทศได้ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และทำให้ทุกคนอยู่รอด และไม่ควรพึ่งพิงวัคซีนจากประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะตอนนี้หลายประเทศรอบบ้านเรา ได้เริ่มกระจายวัคซีนไปสู่ประชาชนแล้ว รวมถึงการพิจารณาลดจำนวนวัน State Quarantine
นายปริญญ์และนางดรุณวรรณ ยังลงพื้นที่ถนนข้าวสาร ย่านธุรกิจกลางคืนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนกลายเป็นสถานที่ที่เงียบเหงา ไร้ผู้คน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยได้พูดคุยกับประชาชนหลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงแรมขนาดเล็ก รวมถึงผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ พบปัญหาความเดือดร้อนมากมายที่ไม่เคยได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล เช่น สถานบันเทิงและร้านอาหารที่มีคำสั่งให้งดจำหน่ายแอลกอฮอล์ แม้ร้านจะมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดตามมาตรฐานที่ ศบค. กำหนด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ แอลกอฮอล์ล้างมือ สแกนไทยชนะ และจัดที่นั่งภายในร้านตามหลักการเว้นระยะห่างแล้วก็ตาม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการน้อยลง รายได้ของร้านจึงลดลงตามไปด้วย จนต้องให้พนักงานสลับวันหยุดแบบไม่จ่ายค่าแรง ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมบางแห่งจำเป็นต้องปลดพนักงานออกและเปลี่ยนมาขายอาหารเป็นการชั่วคราว หรือปิดกิจการชั่วคราวมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว และบางแห่งปิดกิจการถาวรไปเลยก็มี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
“การระบาดของโควิดทั้งสองระลอก ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทรุดหนักและทรุดลงอย่างต่อเนื่อง รัฐต้องกล้าตัดสินใจในเชิงนโยบาย ปรับเปลี่ยนมาตรการให้บาลานซ์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุข เพราะโควิดจะยังคงอยู่กับเราไปอีกระยะจนกว่าจะมีการฉีดวัคซีนที่ทำให้คนมีภูมิคุ้มกันมากพอ การช่วยเหลือแบบระยะสั้นเปรียบเสมือนการให้ออกซิเจนช่วยต่อลมหายใจเป็นช่วง ๆ หากมีการเอาออกซิเจนออก ก็อาจหยุดหายใจได้ จึงต้องคิดมาตรการระยาวที่ทำให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง ข้อเสนอจากผู้ประกอบการที่ได้รับฟังมาจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเร่งศึกษาความเป็นไปได้ก่อนนำไปปฏิบัติ” นายปริญญ์ กล่าว
นายปริญญ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งใจจะไปรับฟังประชาชนทุกกลุ่มในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม และส่งเสียงสะท้อนไปยังผู้เกี่ยวข้องผ่านช่องทาง Youtube Channel “PRINN Check in” ทุกเย็นวันศุกร์ ที่จะเริ่มออกอากาศตอนแรกในวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: