กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและห่วงใยลูกจ้างที่บาดเจ็บ จากเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนถล่ม ในหมู่บ้านกฤษฎานคร 31 ถนนบรมราชชนนี กำชับหน่วยงานในสังกัดเร่งช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาในตังอาคารที่ถล่ม หลังนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ทั้งหมดแล้ว
วันที่ 4 เมษายน 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เหตุเพลิงไหม้และอาคารถล่ม บ้านเลขที่ 138/12 หมู่บ้านกฤษดานคร 31 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ที่ติดอยู่ในซากอาคารถล่ม ว่า
เวลา 06.45 น. พบร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 3 และ 4 คือ นายสมัญญา นิลธง อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และนายอรรถพล ท้วมทอง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร โดยได้เร่งนำร่างออกมาจากซากอาคารได้แล้ว และเวลา 08.25 น. พบร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 5 คือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากอาคารถล่มได้ทั้งหมดแล้ว และนำร่างที่คลุมด้วยธงชาติ ส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมแสดงความเป็นห่วงลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เข้าไปดูแลช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาพยาบาล ตามสิทธิประโยชน์คุ้มครองของกฎหมาย และประสานญาติผู้เสียชีวิตกรณีเป็นผู้ประกันตน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือค่าทำศพและสิทธิประโยชน์ทดแทนโดยด่วน
ทั้งนี้ ได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 6 ตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตนของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด พบว่า ผู้เสียชีวิต 5 คน เป็นผู้ประกันตนในปัจจุบัน 1 คน เคยเป็นผู้ประกันตน 3 คน และมีเงินบำเหน็จชราภาพแต่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน 1 คน คือ นายสมัญญา นิลธง อายุ 48 ปี รวมจ่ายประโยชน์ทดแทน 324,536.09 บาท ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1.นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และลูกจ้างบริษัท เคเอส พลาสติก พอเลิกงานก็จะมาเป็นอาสาสมัครดับเพลิง ทายาทจะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 82,800 บาท เงินบำเหน็จชราภาพแก่ทายาท 132,884.03 บาท รวมทั้งสิ้น 265,684 .03 บาท
2.นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน เมื่อ 1 มกราคม 2562 ทายาทได้รับเงินบำเหน็จชราภาพรวมดอกผล 17,624.07 บาท
3.นายอรรพล ท้วมทอง อายุ 26 ปี สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน เมื่อ 31 ธันวาคม 2559 ทายาทได้รับเงินบำเหน็จชราภาพรวมดอกผล 12,223.12 บาท
4.นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน เมื่อ 31 ธันวาคม 2559 ทายาทได้รับเงินบำเหน็จชราภาพรวมดอกผล 29,004.87 บาท
สำหรับผู้บาดเจ็บ 3 คน คือ
1.นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ อายุ 34 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว
2.นายสุรศักดิ์ เปลี่ยนกลัด อายุ 32 ปี สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน เมื่อ 15 มิถุนายน 2561 รักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวิชัยเวช หนองแขม
3.นายธีรพล ทองศิริ อายุ 26 ปี ไม่ใช่ผู้ประกันตน รักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวด้วยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการรักษาพยาบาลจนกว่าจะหายขาด และเงินทดแทนการขาดรายได้ ตามใบรับรองแพทย์ที่กำหนดให้หยุดงานและการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 6 จะได้แจ้งสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน และทายาทผู้เสียชีวิตทราบ พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกในการเบิกจ่ายสิทธิประโยชน์แก่ผู้มีสิทธิดังกล่าวต่อไป
ขอบคุณภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจาก :
สำนักประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร
อาสากู้กู้ภัยต่าง ๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: