กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ ศบค. 7 เม.ย.นี้ ยกระดับคุมโควิด-19 ระบาด หลังแนวโน้มสถานการณ์สูงขึ้น แบ่งพื้นที่จังหวัดตามโซนสี 4 ระดับ กทม.และปริมณฑล ถูกจัดอยู่ในพื้นที่สีแดง 5 ร้านอาหาร สถานบันเทิง เปิดได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม แต่ยังไม่ห้ามเดินทาง
ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เห็นควรปรับมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มจะสูงขึ้น กว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ
1.ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหามากนัก เนื่องจากมีประสบการณ์ในการควบคุมโรคผู้ต้องกักในสถานที่กักบางเขน และมีการใช้ Bubble and Seal เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี
2.การระบาดในสถานบันเทิง ทั้งนักเที่ยว พนักงาน นักดนตรี ในพื้นที่รอบ ๆ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีการเดินทางไปหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น ชลบุรี และที่อื่น ๆ จึงต้องมีมาตรการเข้มข้นในการดูแล ประกอบกับช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์
ที่ประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 มีมติกำหนดมาตรการและแนวทางจัดการสถานการณ์ ดังนี้
1.มอบกรมควบคุมโรคปรับปรุงการกำหนดเขตพื้นที่ ทั้งพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อใช้ประกอบการดำเนินงานตามคำสั่ง ศบค.ให้ตรงกับสถานการณ์จริงในปัจจุบัน
2.ให้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ในจังหวัดปลายทาง ติดตามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มสถานบันเทิง จากกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเฝ้าระวัง ควบคุมโรค ตามมาตรการที่กำหนด แต่ไม่มีการห้ามการเดินทาง ไม่เน้นย้ำการกักตัว แต่ทำความเข้าใจและการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นหลัก
3.มอบกรมควบคุมโรค ดำเนินการวางแผนเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยง เน้นพื้นที่ผับบาร์ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากการประสานเบื้องต้น ในกรุงเทพฯ มีสถานบันเทิงกว่าพันแห่ง จะต้องเฝ้าระวังสม่ำเสมอ
4.ให้ทุกจังหวัดตั้งรับเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้ อสม. เคาะประตูบ้าน
5.ให้โรงพยาบาลทุกแห่งซักประวัติ หากมีความเสี่ยงให้ตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิดทันที
6.สั่งการสถาบันบำราศนราดูร และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองเปิดให้บริการตรวจประชาชนทุกวันไม่เว้นวันหยุด
7.ทุกจังหวัดพิจารณานำวัคซีนเพื่อการควบคุมโรค ตามคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานที่ประชุม และมีคณาจารย์อาวุโส เช่น ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร, นพ.โสภณ เมฆธน ร่วมประชุม มีมติให้ปรับพื้นที่เพื่อการควบคุมโรคเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ร้านอาหารเปิดไม่เกิน 21.00 น. รับประทานอาหารในร้านได้ แต่งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนสถานบันเทิง เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. รับประทานอาหารได้แต่ห้ามดื่มสุรา ห้ามจำหน่าย จ่าย แจก เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ความเสี่ยง โควิด-19 อยู่ที่สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงการดื่มสุราจึงต้องเข้มงวด
ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ตามปกติ แต่ต้องดำเนินการแบบ New Normal คือ สวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การสแกนวัดอุณหภูมิ การสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะและอื่น ๆ ที่มี
สถานศึกษาให้เปิดได้ตามปกติ ส่วนสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส เปิดได้ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม
2.พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) มี 9 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชุมพร ตาก ราชบุรี ชลบุรี สุพรรณบุรี นราธิวาสและกาญจนบุรี ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. รับประทานอาหาร ดื่มสุราได้ ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์เปิดไม่เกิน 23.00 น. ดื่มสุราได้ แสดงดนตรีสดในร้านได้แต่งดเต้นรำ งดกิจกรรมที่มีการเบียดเสียดยัดเยียด ส่วนห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานออกกำลังกายเปิดได้เช่นเดิม
3.พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) มี 10 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ระนอง ระยอง สงขลา ยะลา ขอนแก่น
ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. รับประทานทานอาหารได้ ดื่มสุราได้ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. ดื่มสุราได้ รับประทานอาหารได้ แสดงดนตรีสดได้แต่งดเต้นรำ
4.พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) อีก 53 จังหวัดที่เหลือ เปิดได้ตามปกติโดยดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการควบคุมโรค
อย่างไรก็ตาม จะต้องนำมาตรการเหล่านี้ เสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กในวันที่ 7 เมษายน 2564 นี้ หากเห็นชอบจะนำเข้า ศบค.ชุดใหญ่ทราบ ซึ่งจะดำเนินการได้ทันที โดยมาตรการนี้จะดำเนินการ 2 สัปดาห์ แล้วประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
