กฟผ. ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูง กำหนดพื้นที่ควบคุม (Safe Zone) เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงระบบไฟฟ้า พร้อมสั่งล็อกดาวน์เจ้าหน้าที่เดินเครื่องโรงไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่จ่ายไฟทั่วประเทศ ช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่
วันที่ 22 เมษายน 2564 นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 กฟผ. ตระหนักดีว่า ไฟฟ้าเป็นพลังงานที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินงานด้านการแพทย์ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คมนาคม ฯลฯ จึงสั่งการยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุด กำหนดให้พื้นที่ภายในโรงไฟฟ้าและเขื่อน กฟผ. ทั่วประเทศ เป็นพื้นที่ควบคุม (Safe Zone) สำหรับพนักงานที่ทำหน้าที่ผลิตและจ่ายไฟฟ้าอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกโดยเด็ดขาด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าจะมีความมั่นคง รองรับสถานการณ์วิกฤตได้ตลอด 24 ชั่วโมง
การจัดสรรพื้นที่ Safe Zone ทั้งในส่วนของระบบผลิตและส่งไฟฟ้า กฟผ. ได้แยกการใช้ชีวิตของเจ้าหน้าที่เดินเครื่องโรงไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ควบคุมการจ่ายไฟ ออกจากเจ้าหน้าที่สำนักงานทั่วไป รวมถึงได้แยกพื้นที่ห้อง Control room ของศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าให้เข้าได้เฉพาะพนักงานกะเท่านั้น พร้อมคุมเข้มในการคัดกรอง และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของเจ้าหน้าที่ก่อนเริ่มงานทุกวัน โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทำงานและ
ทำความสะอาดมือเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าพื้นที่
ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวด้วยว่า กฟผ. ยังเตรียมพร้อมศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าสำรอง โดยจัดให้มีศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าควบคู่กัน 2 ศูนย์ฯ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อที่หากจำเป็นต้องปิดศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เมื่อพบพนักงานในศูนย์ฯ ติดเชื้อโควิด-19 จะยังสามารถจ่ายไฟฟ้าได้อีกศูนย์ฯ ที่เหลือ รวมถึงประสานไปยังพนักงาน กฟผ. ที่เคยปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการควบคุมและสั่งการระบบไฟฟ้า ให้เตรียมพร้อมเข้ามาร่วมเสริมทีมงานปัจจุบัน
อีกทั้งปรับการทำงานของพนักงานเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า กฟผ. เพื่อลดการสัมผัส จากทำงานวันละ 3 กะ กะละ 8 ชั่วโมง เป็น 2 กะ กะละ 12 ชั่วโมง โดยแบ่งพนักงานเดินเครื่องเป็น 4 ชุด โดยแต่ละชุดจะทำงานสลับกันไป พร้อมทั้งได้จัดเตรียมอุปกรณ์พิเศษ อะไหล่ คู่มือที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรักษา เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า พนักงาน กฟผ. จะรักษาตัว เพื่อรักษาหน้าที่ในการดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศอย่างดีที่สุด” นายบุญญนิตย์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: