กรุงเทพฯ – ไขข้อสงสัยชาวเน็ต ทำไมปรับนายกรัฐมนตรีแค่ 6,000 บาท เหตุฝ่าฝืนประกาศ ไม่สวมหน้ากากอนามัย
วันที่ 26 เมษายน 2564 กรณีกระแสวิพากย์วิจารณ์ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่สวมหน้ากากอนามัย ระหว่างเป็นประธานการประชุมที่ปรึกษา เกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีน ในวันนี้ (26 เมษายน 2564) ที่ทำเนียบรัฐบาล กระทั่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้เปรียบเทียบปรับนายกรัฐมนตรี ในอัตรา 6,000 บาท เนื่องจากฝ่าฝืนประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
ข่าวน่าสนใจ:
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- ทหารพรานสกัดกองทัพมด ขนยาบ้า 200,000 เม็ด ทิ้งเป้หนี
- ตรัง "บุญกฐิน-ตักบาตรขนมโค" หนึ่งเดียวในไทย ชาวตรังแห่ร่วมงานทอดกฐินออกโรงทานคับคั่ง
- ทีดีอาร์ไอ จัดเวิร์คชอป “ CONTENT CREATOR WORKSHOP: SYNERGY FOR CLEAN ENERGY”
แต่แม้มีการดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยการเปรียบเทียบปรับแล้ว แต่กระแสวิจารณ์และคำถามในโซเชียล มีเดีย ยังมีตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะใน เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน https://www.facebook.com/aswinkwanmuang ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังโพสต์ข้อความชี้แจงกรณีดังกล่าว แต่ชาวเน็ตพากันข้องใจว่า เหตุใดจึงปรับเพียง 6,000 บาท ทำไมไม่ปรับอัตราสูงสุด 20,000 บาท ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศ ควรจะปรับเป็น 2 เท่า ขณะที่บางคนมองว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือเล่นละครตบตา จึงมีกระแสเรียกร้องให้แสดงเอกสารการเปรียบเทียบปรับด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาบัญชีแนบท้ายเรื่อง บัญชีอัตราการเปรียบเทียบแนบท้าย ระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบ พ.ศ.2563 ระบุไว้ชัดเจนว่า ในมาตรา 53 ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (3) (2) (5) หรือ (6) มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5) มาตรา 40 (5) หรือไม่อำนวยความสะดวกแจ่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (4) มีระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
สำหรับการเปรียบเทียบปรับนายกรัฐมนตรี เพียง 6,000 บาทนั้น เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก ซึ่งกำหนดไว้ว่าปรับจำนวน 6,000 บาท แต่หากพบกระทำผิดเป็นครั้งที่ 2 จะปรับมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า คือ 12,000 บาท และตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป จึงจะปรับเต็มจำนวนอัตราสูงสุด 20,000 บาท
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: