กรุงเทพฯ – นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ จัดคลับเฮ้าส์ เชิญ นพ.อุดม คชินทร และนายสนั่น อังอุบลกุล ร่วมพูดคุยกับประชาชน ผ่านแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ ประเด็น ‘ความจริงเรื่องวัคซีนโควิด’ เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความวิตกกังวล เรื่องวัคซีนโควิด-19 วอน ปชช.ฉีด เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจและใช้ชีวิตปกติ
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า วัคซีนเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้ชนะโรคโควิด-19 ได้ แต่ปัจจุบันหลายคนยังคงมีคำถาม ขาดความเข้าใจ และเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับวัคซีนอยู่ การเชิญตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมพูดคุยกัน เป็นสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องจากผู้รู้จริงสู่ประชาชน เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชิวิตได้ตามปกติสุขในเร็ววัน รวมถึงช่วยบรรเทาปัญหาทั้งด้านสาธารณสุข และฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมกัน
นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และอดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ตัวเลขที่ได้ยินบ่อย ๆ เกี่ยวกับวัคซีน ซึ่งอาจทำให้เกิดการสับสน มี 2 ประเด็น คือ ผลในการช่วยป้องกันเชื้อโรค วัคซีนทุกตัวจะให้ผลใกล้เคียงกันและเพียงพอ ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด (เกิน 50%) และผลของการช่วยลดความเจ็บป่วย โดยทำให้เชื้อลดอาการรุนแรงลงได้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทุกตัวจะให้ผลใกล้เคียงกัน ระหว่าง 80-100%
ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนใดที่มีข้อมูลยืนยันว่าทำให้คนเสียชีวิต จึงให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง มาลงทะเบียนฉีดวัคซีนกันภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ไลน์ออฟฟิเชียลหมอพร้อม โรงพยาบาลที่รักษาตัวอยู่ และที มอสม.ในพื้นที่
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สาเหตุที่ภาคเอกชนไม่สามารถนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เองได้ เป็นเพราะวัคซีนที่เร่งผลิตออกมาตอนนี้ ต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA Emergency Use Authority) บริษัทยาต่างชาติจะยังไม่ขายตรงให้เอกชน ต้องดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ คือ ให้รัฐบาลเป็นซื้อเท่านั้น เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบชีวิตของประชาชนเอง หอการค้าไทยจึงได้หารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้ง 4 คณะทำงาน ได้แก่ TEAM Distribution and Logistics สนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน, TEAM Communication สนับสนุนด้านการสื่อสารของภาครัฐ, TEAM IT Operation สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทะเบียนและลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในศูนย์ปฏิบัติการของเอกชน และ TEAM Extra Vaccine procurement จัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ให้บริษัทเอกชน ที่ต้องการและมีความพร้อม
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนที่ผ่านการอนุมัติจาก สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การเภสัชกรรมได้ ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพหลายขั้นตอนจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามีความปลอดภัย แม้จะมีผลข้างเคียงบ้าง แต่ยังถือว่าน้อย และคุ้มที่จะฉีด เพื่อทำให้สังคมไทยดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และพร้อมที่จะเปิดประเทศ
“วัคซีนอาจไม่ใช่เครื่องมือต่อสู้ที่จะทำให้เราชนะโรคโควิด-19 ได้ในทันที แต่สิ่งสำคัญ คือ ตัวเราที่จะช่วยกันแชร์ข่าวที่ถูกต้อง สร้างองค์ความรู้อย่างเป็นวงกว้าง เพื่อช่วยให้สังคมไม่ตื่นตระหนก เชื่อว่าวัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับทุกคนภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ประเทศไทยยังมีความหวังอยู่” นายปริญญ์ กล่าว
ทั้งนี้ สามารถชมย้อนหลังฉบับเต็มได้ทาง ช่องยูทูป PRINN check in
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
