กรุงเทพฯ – ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบลดการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา 33 และ 39 งวดเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564
วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบ ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยจะออกเป็น ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. …. ต่อไป
โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมนายจ้างและผู้ประกันตน จากร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 2.5 ของค่าจ้างผู้ประกันตน
ผู้ประกันตนมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบ จากเดิมเดือนละ 432 บาท เหลือเดือนละ 216 บาท
สำหรับฝ่ายรัฐบาลยังส่งเงินสมทบในอัตราเดิม คือ ร้อยละ 2.75 ของค่าจ้างผู้ประกันตน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 สิงหาคม 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายทั้งของนายจ้างและผู้ประกันตน รวมถึงยังช่วยรักษาระดับการจ้างงานของนายจ้างด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า แม้การลดอัตราเงินสมทบเป็นเวลา 3 เดือน จะทำให้กองทุนฯ จัดเก็บเงินสมบทลดลงถึง 20,163 ล้านบาท แต่จะผันมาเป็นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในอัตราเท่ากัน คือ นายจ้างและผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์จากการลดภาระค่าใช้จ่าย
โดยในส่วนของนายจ้าง 485,113 ราย จะลดค่าใช้จ่ายลงได้ 9,487 ล้านบาท
ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11.1 ล้านคน จะลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ 9,487 ล้านบาท
ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.8 ล้านคน จะลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ 1,189 ล้านบาท
เมื่อรวมผู้ประกันตนทั้ง 12.9 ล้านคนแล้ว จะลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ถึง 10,676 ล้านบาท
