คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 และโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 กฟผ. มุ่งสร้างความมั่นคงไฟฟ้าภาคเหนือและภาคใต้ รักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้าประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 มีมติเห็นชอบ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หลังจากนี้ กฟผ. จะปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดในรายงานฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมเพิ่มเติม มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาชีวอนามัยและความปลอดภัยช่วงการก่อสร้างโครงการฯ ตามความเห็นของคณะกรรมการฯ
ข่าวน่าสนใจ:
โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 และโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 เป็นโครงการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Revision 1) โดยโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 600 เมกกะวัตต์ มีแผนจ่ายไฟเข้าสู่ระบบในปี 2569 เพื่อช่วยรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภาคเหนือ ทดแทนกำลังผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะเดิมที่จะถูกปลดออกจากระบบเนื่องจากหมดอายุการใช้งาน
และโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 1,400 เมกกะวัตต์ มีแผนจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ ชุดที่ 1 ในปี 2570 และชุดที่ 2 ในปี 2572 เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคใต้ รองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคใต้ ทั้งสองโครงการมีแผนที่จะก่อสร้างบนพื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม เนื่องจากมีความพร้อมของระบบส่งไฟฟ้าจึงช่วยลดการลงทุนก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า ทำให้ไม่เพิ่มต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ช่วยรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ
นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศให้ขยายตัว ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ ทำให้เกิดการจ้างงานคนท้องถิ่น ชุมชนยังได้รับงบประมาณพัฒนาชุมชนจาก กองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนด้านต่าง ๆ อาทิ การศึกษา การส่งเสริมอาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กฟผ. เตรียมจัดส่งรายงาน EHIA โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนเครื่องที่ 8-9
เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติโครงการ โดยคาดว่าจะเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการได้ภายใน เดือนธันวาคม 2564
“กฟผ. ยังมีแผนมุ่งสู่คาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ในปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 2,455 เมกกะวัตต์ จะทยอยปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะเดิมลง เมื่อถึงปี 2569 จะเหลือโรงไฟฟ้าแม่เมาะเพียง 2 เครื่อง รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 1,315 เมกกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และจะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าในโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริด (Hydro-floating solar hybrid) ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมีกำลังผลิต 45 เมกกะวัตต์ ณ เขื่อนสิรินธร โดยจะเพิ่มในเขื่อนต่าง ๆ จนครบ 2,725 เมกกะวัตต์ ตามแผน พร้อมรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในอนาคต” นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน กล่าวทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: