กรุงเทพฯ – ลุ้น ศบค.คลายล็อกดาวน์เพิ่มอีก 2 สัปดาห์ ขณะผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวในโรงพยาบาลเหลือ 108,022 คน อาการหนัก 3,017 คน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 720 คน เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงสุด
วันที่ 6 ตุลาคม 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ในวันนี้
พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 9,866 คน แบ่งเป็น
♦️ ผู้ติดเชื้อในจากระบบเฝ้าระวัง ระบบบริการ และไปตรวจที่โรงพยาบาล 8,797 คน
♦️ จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,008 คน
♦️ ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 45 คน
♦️ ผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 16 คน
ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม ตั้งแต่ปี 2563 อยู่ที่ 1,667,097 คน
กลับบ้านได้เพิ่ม 10,115 คน สะสม 1,541,770 คน รักษาตัวลดเหลือ
108,022 คน แบ่งเป็น รพ.หลัก 38,301 คน รพ.สนามและอื่น ๆ 69,721 คน
ในจำนวนนี้อาการหนัก 3,017 คน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 720 คน
มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 102 คน สะสม 17,305 คน
แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า ภาพรวมทั้งประเทศ พบอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตลดลง แต่พบการติดเชื้อใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีอัตราที่สูงถึง 1,922 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังสูงอยู่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ที่พบเสียชีวิตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จ.สงขลา โดยรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) แจ้งว่า ก่อนหน้าราว 2 สัปดาห์ ตัวเลขยังอยู่ที่ 200 คน แต่วันนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 666 คน ถ้าดูกราฟแต่ละกราฟแต่ละจังหวัดจะเห็นว่า เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้มมาเกือบ 2 เท่า จากต้นสัปดาห์ อำเภอหาดใหญ่ถือว่าเป็นก้อนใหญ่ที่สุด วันนี้รายงาน 276 ตน นอกจากนี้ ยังมีอำเภอที่อยู่ติดกับจังหวัดยะลา ได้แก่ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย รัตภูมิ อำเภอเมืองสงขลา ก็ยังคงเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการสัมผัสผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรม วัฒนธรรม การจิบน้ำชาร่วมกัน พูดคุยกัน ทำให้มีการเปิดหน้ากากอนามัย รวมถึงกิจกรรมทางศาสนา ประเพณี
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 12 ผู้บริหารกระทรวง ยังคงอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัด เพื่อจะกำกับติดตาม ช่วยอำนวยความสะดวก สนับสนุน ให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นับจากนี้ ทั้ง 4 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา จะประชุมร่วมกันและเน้นย้ำไปที่การค้นหาผู้ป่วยที่เร็ว สามารถคัดแยกผู้ป่วยออกจากชุมชนหรือครอบครัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งชุมชนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รวมถึงการระดมฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง และหญิงตั้งครรภ์
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต เป็นชาย 51 คน หญิง 51 คน มีชาวเมียนมา 3 คน กัมพูชา 1 คน และเนเธอร์แลนด์ 1 คน อายุเฉลี่ย 70 ปี ต่ำสุด 38 ปี สูงสุด 102 ปี อายุ 60 ปีขึ้นไป 73 คน (72 %) อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 23 คน (22 %)
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับแรก
อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร เพิ่ม 1,208 คน สะสม 374,067 คน
อันดับ 2 จ.สงขลา เพิ่ม 666 คน สะสม 32,759 คน
อันดับ 3 จ.สมุทรปราการ เพิ่ม 602 คน สะสม 113,190 คน
อันดับ 4 จ.ชลบุรี เพิ่ม 601 คน สะสม 91,082 คน
อันดับ 5 จ.นราธิวาส เพิ่ม 501 คน สะสม 26,567 คน
อันดับ 6 จ.ยะลา เพิ่ม 446 คน สะสม 26,465 คน
อันดับ 7 จ.ระยอง เพิ่ม 379 คน สะสม 33,794 คน
อันดับ 8 จ.ปราจีนบุรี เพิ่ม 313 คน สะสม 17,680 คน
อันดับ 9 จ.ปัตตานี เพิ่ม 309 คน สะสม 23,792 คน
อันดับ 10 จ.นครศรีธรรมราช เพิ่ม 259 คน สะสม 17,722 คน
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยังกล่าวถึงแนวโน้มการคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติมว่า 29 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด วันนี้เริ่มมีหลายจังหวัดตัวเลขผู้ป่วยเริ่มลดลงต่ำกว่า 100 คน ที่เห็นชัดคือ จ.อ่างทอง และสิงห์บุรี ซึ่งในจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อหรืออาการหนักลดลง จะมีผลให้ ศบค.ชุดเล็ก กำลังเตรียมข้อมูลที่จะนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาผ่อนคลายในอีก 2 สัปดาห์นับจากนี้
สำหรับการฉีดวัคซีน
วันที่ 5 ตุลาคม 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน 734,804 โดส
เข็มที่ 1 จำนวน 262,362 คน
เข็มที่ 2 จำนวน 433,665 คน
เข็มที่ 3 จำนวน 38,777 คน
ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 5 ตุลาคม 2564
มีผู้รับวัคซีน สะสม 56,656,247 โดส ใน 77 จังหวัด
เป็นผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม 33,505,887 คน
เป็นผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม 21,595,916 คน
เป็นผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม 1,1,554,444 คน
สถานการณ์ทั่วโลก
♦️ ยอดผู้ติดเชื้อ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มกว่า 4 แสนคน อยู่ที่ 236,593,653 ล้านคน
♦️ อาการรุนแรง 85,299 คน
♦️ รักษาหาย เกือบ 5 แสน อยู่ที่ 213,721,839 คน
♦️ เสียชีวิต เพิ่มกว่า 7,400 คน มาที่ 4,831,604 คน
5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1.สหรัฐอเมริกา ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มกว่า 94,000 คน
มาที่ 44,781,200 คน
2.อินเดีย เพิ่มกว่า 19,000 คน มาที่ 33,870,385 คน
3.บราซิล เพิ่มกว่า 20,000 คน มาที่ 21,499,074 คน
4.สหราชอาณาจักร เพิ่มกว่า 33,000 คน มาที่ 7,967,985 คน
5.รัสเซีย เพิ่มกว่า 25,000 คน มาที่ 7,637,427 คน
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 26 จำนวน 1,667,097 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
