อุบลราชธานี – พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อม 3 รัฐมนตรี เยี่ยมโครงการโซลาร์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลก ชื่นชมระบบการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ช่วยลดโลกร้อน ต้นทุนผลิตไฟฟ้าต่ำ เตรียมผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.อุบลราชธานี
วันที่ 15 ตุลาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี (hydro- floating Solar Hybrid) หรือโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด โดยมีนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะผู้บริหาร กฟผ. ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าโครงการ
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- ตร คลี่ปม หนุ่มวัย 29 ปี ถูกรถไฟชน มีเสื้อมัดเท้า ยืนยันเป็นเพียงมัดแทนรองเท้าเดินริมทางรถไฟ
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอท่าฉาง พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธรของ กฟผ. กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบผสมผสานระหว่าง ‘พลังงานแสงอาทิตย์’ และ ‘พลังน้ำ’ ซึ่งช่วยลดโลกร้อน และมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำ จึงควรดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อนต่าง ๆ ให้เร็วขึ้น
โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร จะนำโซลาร์เซลล์มาใช้ผลิตไฟฟ้าในช่วงกลางวัน และนำพลังน้ำมาผลิตไฟฟ้าเสริม ในช่วงที่ความเข้มแสงไม่เพียงพอหรือช่วงกลางคืน ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ช่วยลดความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียน ที่ปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อีกทั้งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำในเขื่อน ยังช่วยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรม สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้ถึงประมาณ 47,000 ตัน/ปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกป่า 37,600 ไร่
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เยี่ยมชมเส้นทางเดินชมธรรมชาติ หรือ Nature Walkway โดยมีมัคคุเทศก์น้อยเป็นผู้นำชม ซึ่งสามารถชมโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลกในมุมสูงอย่างใกล้ชิด และเตรียมผลักดันให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งใหม่ของ จ.อุบลราชธานี โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีต่อชาวอุบลราชธานี ที่จะได้มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ และช่วยสร้างสีสันด้านการท่องเที่ยวให้ประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: