กรุงเทพฯ – ศปก.ศบค. หารือเปิดประเทศรับต่างชาติ 1 พ.ย. นำร่อง 17 จังหวัดสีฟ้า ขีดกรอบเตรียมความพร้อม 3 ด้าน ย้ำ ประชาชนต้องปลอดภัย ระบบสาธารณสุขมั่นคง
วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. หารือกันถึงการเปิดประเทศ ที่นับจากวันนี้ จะมีเวลาเตรียมตัวอีกเพียง 2 สัปดาห์ ก่อนถึงระยะ (เฟส) ที่หนึ่ง ในวันที่ 1 พ.ย.2564 และปรับแผนร่วมกับภาคธุรกิจ สถานประกอบการ ซึ่งอาจจะไม่มีรูปแบบที่ดีที่สุดหรือสมบูรณ์ที่สุด แต่ต้องมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะสามารถดำเนินมาตรการไปได้ เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ระบบสาธารณสุขมั่นคง
ทั้งนี้ มีการวางแผนการเปิดประเทศเป็นระยะ ๆ โดยต้องเตรียมความพร้อม 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.สถานการณ์การแพร่ระบาดต้องทรงตัว 2.ต้องพิจารณาถึงขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข ว่ามีความพร้อมทั้งในเรื่องการป้องกัน การควบคุม และการรักษา 3.พื้นที่นำร่องสีฟ้า 17 จังหวัด จะต้องครอบคลุมการฉีดวัคซีนได้ไม่น้อยกว่า 70% ดังนั้น การเปิดประเทศจะต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปและต้องทยอยเปิด จังหวัดไหนพร้อมก่อนก็เปิดก่อน มาตรการหลักต้องอยู่ภายใต้มาตรการ COVID Free Setting (โควิดฟรีเซ็ตติ้ง) ขณะนี้อยู่ในระยะนำร่องของการเปิดประเทศ หลังเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาแล้ว ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้พื้นที่นำร่องสีฟ้าอื่น ๆ
พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ แถลงถึงหลักการเปิดประเทศว่า ในระยะที่ 1 วันที่ 1 พ.ย.64 จะต้องเดินทางมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เดินทางมาทางอากาศหรือเครื่องบินเท่านั้น, จะต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มตามกำหนด โดยมีเอกสาร/หลักฐานยืนยัน, มีการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR จากต้นทาง ผลยืนยันเป็นลบ, ต้องทำประกันสุขภาพมูลค่าอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว จะต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง ในสถานที่กักตัวที่กำหนด เมื่อผลเป็นลบแล้ว จึงจะสามารถเข้าสู่ระบบเดินทางไปในพื้นที่สีฟ้าหรือพื้นที่นำร่องที่มีการทำโควิดฟรีเซ็ตติ้งไว้อย่างเป็นระบบ ผู้รับบริการไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างประเทศ จะต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม การสุ่มตรวจด้วย ATK 1 สัปดาห์ ก่อนไปใช้บริการ
ข่าวน่าสนใจ:
ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินการเปิดประเทศ จะสามารถปรับและชะลอได้ ประชาชนต้องปลอดภัยและระบบสาธารณสุขมีความมั่นคง ต้องมีการวางแผนที่ดีอย่างรัดกุมและได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งนี้ จะต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุ กรณีที่มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การจะระบุรายชื่อประเทศหรือการเปิดเที่ยวบินนั้น เนื่องจากบางประเทศยังไม่อนุญาตให้พลเมืองของตนเดินทางออกนอกประเทศ แต่การเปิดเที่ยวบินเป็นไปเพื่อการอำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยในประเทศนั้น ๆ เพื่อเดินทางกลับบ้านได้สะดวกขึ้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: