พรรคไทยสร้างไทย เตรียมผลักดันการกระจายอำนาจด้วยเทคโนโลยี ให้ประชาชนกำหนดทิศทางออกเสียงในสภาฯ ผ่าน ส.ส. และสร้าง Metaverse ทดสอบการจัดทำนโยบายจากประชาชน
Metaverse (เมตาเวิร์ส) ซึ่งกำลังเป็นคำที่ถูกพูดถึงในหลายวงการ นอกเหนือจากแวดวงเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวไปอีกขั้น ที่จะช่วยผสานโลกเสมือนจริงคู่ขนานไปกับโลกจริงทางกายภาพ ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างตัวตนและทำแทบทุกกิจกรรมได้ในโลกเสมือนแบบ 3 มิติ ไม่เว้นแม้แต่ภาคการเมือง บางพรรคกำลังใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อการทำงานในสภาฯ ควบคู่กับการสื่อสารในภาคประชาชน
อย่างพรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค ที่ใช้ระบบ Metaverse จากหาดใหญ่ เข้ามาพูดคุยกับผู้สื่อข่าว ณ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย กรุงเทพมหานคร ในงานเปิดตัว ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ตอัพด้าน Government Tech รายแรกของไทย (iTAX) เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัลเพื่อสร้างพลังของประชาชน พรรคไทยสร้างไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย คือ พรรคที่ประชาชนเป็นเจ้าของ ดังนั้นพรรคจึงเน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านทั้งการออกไปพบปะพี่น้องประชาชนแบบค่ำไหนนอนนั่น ในคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด ที่เรียกว่า ‘On Ground’ ร่วมกับ ‘On Space’ คือ การใช้เทคโนโลยีให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับพรรค ซึ่งเป็นพรรคการเมืองแรกของประเทศไทยที่ใช้ Political Tech เพื่อให้เสียงของประชาชนมีความสำคัญไม่เฉพาะในวันกาบัตรเลือกตั้งเท่านั้น แต่จะมีความสำคัญทุกวัน ทุกเสียงจะถูกนำมาสร้างนโยบาย และเมื่อพรรคได้ ส.ส.ในสภา จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย โดยมอบให้ ดร.ธรรม์ธีร์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัลฯ ของพรรค
ด้านนายธรรม์ธีร์ ระบุว่า ด้วยเทคโนโลยีนี้ ประชาชนจะไม่ได้เสียงดังเพียงวันที่กาบัตรเลือกตั้ง แต่ประชาชนจะเป็นเจ้าของพรรค และเป็นผู้กำหนดทิศทางให้พรรคไทยสร้างไทย ในทุกการตัดสินใจทางการเมือง โดยประชาชนจะมีส่วนร่วมตั้งแต่การวางนโยบายด้านต่าง ๆ เมื่อ สส.ของพรรคได้เข้าสภา ทุกการโหวตและการปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญ จะทำตามสิ่งที่ประชาชนสั่งให้ทำผ่านแอปพลิเคชัน
นายธรรม์ธีร์ กล่าวต่อว่า การกระจายอำนาจสู่มือประชาชน ด้วยเทคโนโลยี Blockchain (บล็อกเชน) ยังสามารถใช้เพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานราชการ เช่น การให้ประชาชนเป็นผู้ตั้งตัวชี้วัด (KPI) ของข้าราชการกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) หรือการลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการติดตามและตรวจสอบการทำงานและการใช้งบประมาณของรัฐ เพื่อสร้างให้หน่วยงานรัฐมุ่งทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงและโปร่งใส โดยพรรคจะนำเทคโนโลยี Metaverse เพื่อใช้ทดสอบและนำร่องกระบวนการดังกล่าวนี้ด้วย
ขณะที่นายชลเดช เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย ในฐานะผู้ร่วมพัฒนาแพล็ตฟอร์ม D-Vote.com หรือ Decentralized Vote มองว่า การเข้าถึงและการรับฟังเสียงประชาชนโดยตรงนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็น อีกทั้ง Blockchain-based voting platform ยังเป็นแพลตฟอร์มที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ จะเป็นการกระจายอำนาจสู่ประชาชนที่แท้จริง มุ่งมั่นที่จะนำไปพัฒนาประเทศให้ตรงจุด แก้ปัญหาได้ตรงประเด็น เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: