กรุงเทพฯ – ศบค.-สธ. ระบุ คลัสเตอร์สามี-ภรรยาชาวกาฬสินธุ์ ยืนยันผลติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แล้ว 125 คน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มาอยู่ที่ 514 คน กระจาย 10 จังหวัด เป็นกลุ่มในประเทศ 147 คน
วันที่ 27 ธันวาคม 2564 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม 2564 จำนวน 698 คน พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา 387 คน คิดเป็นร้อยละ 55.4, สายพันธุ์โอไมครอน 309 คน คิดเป็นร้อยละ 44.3 และสายพันธุ์อัลฟา 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.3
ภาพรวมผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ตั้งแต่เปิดประเทศ มีรวมทั้งหมด 514 คน เป็นกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ 367 คน และกลุ่มในประเทศ 147 คน
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อในประเทศนั้น ขณะนี้พบที่ จังหวัดลำพูน กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม และอุดรธานี ซึ่งทั้ง 5 จังหวัดเป็นคลัสเตอร์เดียวกัน รวม 125 คน และกำลังตรวจยืนยันอีก 97 ตัวอย่าง
นอกจากนี้ ยังพบที่ จังหวัดสุรินทร์ ภูเก็ต กระบี่ ปัตตานี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งหมดมีประวัติเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ ข้อมูลปัจจุบันค่อนข้างชัดว่า เชื้อโอมิครอนแพร่เร็วแต่ไม่รุนแรง จึงไม่ควรตระหนกมากเกินไป
ด้านแพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่า คลัสเตอร์หลักยังคงเป็น คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ที่เป็นคู่สามี-ภรรยาเดินทางมาจากประเทศเบลเยียม มาถึงไทยเมื่อต้นเดือน ธ.ค. มีประวัติไปรับประทานอาหารที่ผับในตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทำให้นักดนตรี พนักงานในร้านและลูกค้า ติดเชื้อไปด้วย
คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ยังมีความเกี่ยวโยงกับคลัสเตอร์ จ.อุดรธานี เนื่องจากรายแรกเป็นครอบครัวมีบ้านอยู่ที่ จ.อุดรธานี และจาก 1 คน ติดเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดของเคสแรก โดยขณะนี้ จ.อุดรธานี มีผู้ติดเชื้อ 6 คน จ.ลำพูน 4 คน
คลัสเตอร์ จ.สุรินทร์ เป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายแรกที่เดินทางจากประเทศเดนมาร์ก
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ จ.ปัตตานี 7 คน สัมผัสผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากแสวงบุญประเทศแถบตะวันออกกลาง และคลัสเตอร์ของกลุ่มผู้แสวงบุญยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อใน กรุงเทพฯ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ทั้งหมดอยู่ระหว่างยืนยันว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ โดยยืนยันแล้ว 2 คน ในกรุงเทพฯ ติดเชื้อจากสามีซึ่งเป็นนักบินชาวไนจีเรีย
จ.ภูเก็ต และ กระบี่ 2 คน เป็นแม่บ้านซึ่งทำงานในโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อพักอาศัย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า ขณะนี้พบว่าสถานบันเทิงพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในหลายสถานที่ที่มีการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือสมาคมผู้ประกอบการสถานบันเทิง และผู้ประกอบการ ร่วมกันกวดขันและป้องกันการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข และทำให้เกิดการติดเชื้อ อาจมีการเสนอให้ปิดหรือล็อกในบางจุด ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อร้านอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ขอให้บุคลากรทางการแพทย์ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 4 เพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน รวมถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ควรที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ด้วยเช่นกัน
ผู้ติดเชื้อโอมิครอน มีอาการไอมากที่สุด 54 % ตามด้วย เจ็บคอ
กรมการแพทย์ รายงาน ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2564 พบอาการเบื้องต้นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีอาการ 41 คน จากผู้ป่วย 100 คนแรก ของประเทศไทย โดยมีอาการ
ไอ มากที่สุด 54 %
เจ็บคอ 37 %
ไข้ 29 %
ปวดกล้ามเนื้อ 15 %
มีน้ำมูก : 12 %
ปวดศีรษะ : 10 %
หายใจลำบาก : 5 %
ได้กลิ่นลดลง : 2 %
ยาที่ใช้ในการรักษา Favipiravir (ฟาวิพิราเวียร์) 10 คน อาการดีขึ้น ใน 24-72 ชม. หลังรับยาและให้จนครบ 5 วัน
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
