กรุงเทพฯ – สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน 2 มกราคม 2565 เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 34 ราย รวม 5 วัน (29 ธ.ค.-2 ม.ค.) เสียชีวิตแล้ว 263 ราย ศปถ.เข้มข้นดูแลถนนสายหลัก อำนวยความสะดวกด้านการจราจรวันหยุดสุดท้าย แนะประชาชน ‘เร็ว เมา โทร ง่วง ไม่ขับ’
วันที่ 3 มกราคม 2565 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 34 ราย ผู้บาดเจ็บ 311 คนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.85 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 29.32 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.02 รองลงมา รถปิกอัพ/กระบะ ร้อยละ 8.14 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 83.40 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.69 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.57 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เวลา 18.01-21.00 น. ร้อยละ 21.82 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 40-49 ปี ร้อยละ 15.97
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ตรัง (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด กรุงเทพมหานคร และอุดรธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด กาญจนบุรี (15 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 53 จังหวัด
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,903 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 436,162 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 91,720 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,860 ราย ไม่มีใบขับขี่ 23,639 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.64-2 ม.ค.65) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,221 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 263 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,198 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด เชียงใหม่ (82 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด กรุงเทพมหานคร (17 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด เชียงใหม่ (78 คน)
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวด้วยว่า วันนี้ เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่าง ๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ ศปถ.ได้ประสานจังหวัด เพิ่มความเข้มข้นการดูแลความปลอดภัยบนเส้นทางสายหลัก สายรองเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ/จังหวัด รวมถึงทางลัดทางเลี่ยง เพิ่มความถี่ในการการเรียกตรวจ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ เน้นการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนของผู้ขับขี่ ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ มท 2 วางศิลาฤกษ์อาคารเรียนแบบพิเศษพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอน
- ตร.ตรังเข้ม ปราบอาชญากรรม จับอาวุธปืน-รถซิ่ง-ท่อแต่ง ของกลางเพียบ ผู้การตรังลงมือขับแบ็คโฮนำทำลายด้วยตัวเอง
- อ่วม... ศาลตัดสินจำคุก 30 ปีเศษ ร่วมชดใช้กว่า 2.7 ล้านบาท บังลุคไม้ใหญ่และพวก คดีตัดไม้ใหญ่ลงติ๊กต๊อกบนภูเขาบ้านสองแพรก
- ท่องเที่ยว ประจวบฯ-เพชรบุรี เติบโตต่อเนื่อง คาดคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ ท่องเที่ยวคึกคักส่งท้ายปี
นอกจากนี้ ยังประสานการเปิดช่องทางพิเศษ และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตาม คาดว่าเส้นทางหลักทุกสายจะมีปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัว และการจราจรติดขัดในบางช่วงตลอดทั้งวัน อาจทำให้ผู้ขับขี่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายและง่วงหลับใน จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว จอดพักรถเป็นระยะในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น จุดบริการต่าง ๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ‘เร็ว เมา โทร ง่วง ไม่ขับ’ เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
ประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ ‘ปภ.รับแจ้งเหตุ1784’ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: