กรุงเทพฯ – ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 7 ม.ค.64 เตรียมยกระดับสีพื้นที่ พร้อมปรับเพิ่มมาตรการสกัดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เน้นจำกัดคน การรวมกลุ่ม คุมดื่มสุราในร้าน หลังพบผู้ติดเชื้อพุ่ง ชี้ ฉีดวัคซีนสร้างภูมิฯ ดีกว่าปล่อยให้ติดเชื้อตามธรรมชาติ
วันที่ 5 มกราคม 2565 แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. วันนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ เพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 7 ม.ค.64 นี้ โดยมีวาระน่าสนใจ ได้แก่
มาตรการปรับระดับสีพื้นที่ตามสถานการณ์ โดยจะเป็นการจำกัดจำนวนคน การรวมกลุ่มกิจกรรม และการดื่มสุราในร้านอาหาร เป็นต้น
♦ การปรับมาตรการควบคุมโรค อาทิ การเปิดสถานบันเทิง เนื่องจากหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ พบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจ
♦ การปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศแบบ Test&Go
♦ มาตรการเพิ่มเติมสำหรับจัดการกับสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว โดยจากการรายงานล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 2,238 รายแล้ว แต่การติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์เดลตา
ที่ประชุม ศปก.ศบค. ยังหารือถึงมาตรการในการรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วง 2 สัปดาห์ ที่อาจเพิ่มสูงขึ้น โดยมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อในทุกจังหวัด เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้น โดยมีการซักซ้อมระบบการรักษาที่บ้านและในชุมชน
แพทย์หญิงสุมนี กล่าวต่อว่า คลัสเตอร์ที่เป็นห่วงมาก ๆ คือ คลัสเตอร์ร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับ บาร์ พบที่ จ.เชียงใหม่ พะเยา ขอนแก่น มหาสารคาม, ร้านเหล้า ที่ชลบุรี, สถานบันเทิง ที่อุดรธานี อุบลราชธานี และ กทม. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถานบันเทิงที่ฝ่าฝืน และมีความเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามมาตรการโควิด ฟรี เซ็ตติง (Covid Free Setting)
นอกจากนี้ ยังพบคลัสเตอร์แคมป์คนงาน ที่กทม., ในสถานประกอบ ที่ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหาร, งานแต่งงาน ที่หนองคาย ชัยภูมิ, งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ที่ปราจีนบุรี, ในสถานศึกษา ที่กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ลพบุรี, ในตลาด ที่ระยอง ขอนแก่น กทม. ปราจีนบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปทุมธานี
แพทย์หญิงสุมนี ยังตอบคำถาม กรณีมีแนวคิดว่า ติดโอมิครอนอาการไม่รุนแรง แต่จะมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ควรปล่อยให้มีการติดเชื้อแทนการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ว่า การมีภูมิฯ จากวัคซีนจะดีกว่าปล่อยให้ติดเชื้อสร้างภูมิฯ เนื่องจากเหตุผล 4 ข้อ ดังนี้
1.สายพันธุ์โอมิครอนแพร่เชื้อเร็ว ถ้าผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเร็วในเวลาอันสั้น อาจทำให้ระบบสาธารณสุขในประเทศนั้น ๆ รองรับไม่ทัน
2.คนไทยรับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มกว่า 60% แต่ยังมีอีกหลายล้านคน ไม่ได้รับวัคซีน ทำให้เสี่ยงติดเชื้อ อาการหนักและอาจเสียชีวิต
3.โอมิครอนเป็นสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ แม้อาการไม่รุนแรง ไม่เสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าจะมีภาวะ Long Covid เช่น ระบบหายใจ หรือระบบอื่น ๆของร่างกายต่างจากเดิม หรือความไม่แข็งแรงของสุขภาพในระยะยาวหรือไม่
4.การปล่อยให้ติดเชื้อ จะเป็นการส่งเสริมเชื้อให้กลายพันธุ์มากขึ้น และทำอันตรายคนได้มากขึ้นอีก
ดังนั้น จึงควรไปรับวัคซีนเพื่อป้องกันจะดีกว่า
