นนทบุรี – อธิบดีกรมการแพทย์ ชี้ ‘โอมิครอน’ ทำไทยเข้าสู่โควิด-19 ระลอกที่ 5 เร็วกว่าคาดการณ์ ระบุ จากนี้ถ้าตรวจ ATK เป็นบวก ให้ติดต่อ สปสช.1330 ประสานรักษาที่บ้านหรือชุมชน รวมเด็ก-ต่างด้าว เผย อาการโอมิครอนไม่รุนแรง มากสุด คือ ไอ ตามด้วย เจ็บคอ ไข้
วันที่ 5 มกราคม 2565 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อม รองรับสถานการณ์และผู้ป่วยโควิด-19 หลังปีใหม่ว่า จากการร่วมกับ ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) พบว่า ขณะนี้ระบาดเข้าสู่เวฟ (ระยะ) ที่ 5 แล้ว ในส่วนการรักษานั้น ขณะนี้ทั่วประเทศมีเตียงรองรับ 52,300 เตียง โดย กทม.และปริมณฑล ขณะนี้มีเตียงว่างรองรับ 25,828 เตียง หากเป็นไปตามกรมควบคุมโรคประเมินฉากทัศน์ หากมีผู้ป่วยโควิดสูงสุดถึง 3 หมื่นรายต่อวัน กรมการแพทย์จะมีเตียงเพียงพอในการรักษา
ทั้งนี้ รอบนี้จะเน้นไปที่การกักตัวรักษาที่บ้าน หรือ Home Isolation (HI) และศูนย์ดูแลในชุมชน หรือ Community Isolation (CI) ถ้าอาการหนักจึงจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ทุกสำนักงานเขต ของกรุงเทพมหานคร จัดเตรียมไว้แล้ว โดยเมื่อตรวจพบติดเชื้อที่บ้าน ให้ประสานเข้าระบบผ่านสายด่วน 1330 ซึ่งจะดำเนินการจับคู่ รพ.ให้ และประเมินอาการว่าควรอยู่ที่บ้านหรือส่งต่อรักษาใน รพ. รับประกันว่าภายใน 6 ชั่วโมงจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หากคลินิกไหนทำไม่ได้ก็จะดำเนินการถอดออกจากระบบการดูแล แต่หากอาการหนักให้โทร 1669 เพื่อรับตัวส่งต่อรักษาใน รพ.
นอกจากนี้ ยังได้ประสาน กทม.ให้จัดทำเตียง CI สำหรับเด็กและครอบครัวเอาไว้ 6 โซน โซนละ 1 แห่ง แห่งละอย่างน้อย 50 เตียง และ 1 ห้องเด็กอยู่ร่วมกัน 3-4 คน มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมได้ พร้อมมอบหมายสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชราชินี เตรียมยาน้ำฟาวิราเวียร์สำหรับเด็กทั่วประเทศ โดย รพ.แต่ละแห่งสามารถทำได้เอง ไม่ต้องสำรอง และจัดหมอเด็กเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้ด้วย นอกจากนี้ ยังมี CI เพื่อแรงงานต่างด้าวด้วย โซนละ 1 แห่ง แห่งละประมาณ 100 เตียง
สำหรับต่างจังหวัด แม้สามารถโทร 1330 ได้ แต่เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทแต่ละพื้นที่ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้แต่ละจังหวัดเตรียมศูนย์ประสานงานเรื่องนี้แล้ว อาจมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเฉพาะของแต่ละจังหวัดเอง
‘อาการไข้’ ไม่บ่งบอกว่าติด ‘โอมิครอน’
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ยังกล่าวถึงอาการของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ว่า ข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า อาการไม่รุนแรงมาก เบื้องต้นอาการไม่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ คือ ส่วนใหญ่มีอาการการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ เจ็บคอ ไอแห้ง ๆ ไข้ ระยะแพร่เชื้ออยู่ที่ 2-3 วันก่อนมีอาการ และ 3-5 วันหลังมีอาการ ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ลดจำนวนวันกักตัว แต่ไทยเราพิจารณาแล้วยังไม่ลด อย่างไรก็ตาม พบบางรายมีอาการปอดอักเสบแต่ไม่มาก การรักษาด้วยยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ หลังมีอาการภายใน 3 วัน ช่วยได้ ทำให้ผู้ป่วยอาการหายเป็นปกติ
จากข้อมูล 100 คนแรกในไทย มีอาการ 41 คน ในจำนวนนี้มี 7 คนเชื้อลงปอด ปอดอักเสบ แต่ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจชนิดไฮโฟลว์ ยืนยันได้ว่าอาการไม่รุนแรง แต่ที่สำคัญทุกรายได้รับวัคซีนมามากกว่า 14 วันก่อนตรวจพบเชื้อ และใน 41 คนที่มีอาการนั้น มีไข้เพียง 29 % ไอ 54% เจ็บคอ 37% ส่วนเรื่องกลิ่นหรือรับรสก็อาการไม่มาก แตกต่างจากโควิดที่ผ่านมา ซึ่งอาการจะแยกจากหวัดทั่วไปยาก ดังนั้น อาการไข้จะเป็นตัวบอกได้ยาก แต่หากมีอาการคล้ายไข้หวัด อย่าง ไอ เจ็บคอ ให้กันตัวเองออกจากที่ชุมชน อย่าเพิ่งไปร่วมกิจกรรมหรือทำงาน และให้ตรวจ ATK
