กรุงเทพฯ – โฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรีสั่งเร่งสร้างความเข้าใจผู้ปกครอง ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กเล็ก กว่า 5.2 ล้านคน หลังภาพรวมฉีดวัคซีนโควิดนักเรียน รุดหน้ากว่า 83% ด้านองค์การเภสัชกรรมเปิดจำหน่าย ATK แก่ประชาชน 3 ล้านชุด ราคาชุดละ 35 บาท เริ่ม 14 ม.ค.นี้
วันที่ 12 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมการรับวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ ของนักเรียนช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรายงาน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 มกราคม 2565) พบจำนวนนักเรียนประสงค์ฉีด 4,317,337 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 5,148,710 คน หรือคิดเป็น 83.85% โดยมีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 4,102,827 คน คิดเป็น 95.03% และเข็มที่ 2 แล้ว 3,040,726 คน คิดเป็น 70.43%
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังเตรียมแผนการจัดสรรวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ขณะนี้กำลังสำรวจตัวเลข ตลอดจนสำรวจความยินยอมผู้ปกครอง โดยในระบบของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอื่น ๆ มีนักเรียนที่อยู่ในระบบราว 5.2 ล้านคน นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้มีการสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองให้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการคาดว่า จะเปิดลงทะเบียนแจ้งความประสงค์รับวัคซีนช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม ใช้แนวทางเดิมที่ฉีดให้เด็กอายุ 12-18 ปี
นายธนกร เปิดเผยอีกว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่เด็กนักเรียนในประเทศ มีความคืบหน้าในทุกภูมิภาค อาทิ ภาคใต้ เข็ม 1 ฉีดแล้ว 97% เข็ม 2 ฉีดแล้ว 73% ภาคเหนือ เข็ม 1 ฉีดแล้ว 99% เข็ม 2 ฉีดแล้ว 82% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข็ม 1 ฉีดแล้ว 93% เข็ม 2 ฉีดแล้ว 66% ภาคตะวันออก เข็ม 1 ฉีดแล้ว 98% เข็ม 2 ฉีดแล้ว 75% ภาคตะวันตก เข็ม 1 ฉีดแล้ว 99% เข็ม 2 ฉีดแล้ว 76% ภาคกลาง เข็ม 1 ฉีดแล้ว 94% เข็ม 2 ฉีดแล้ว 68% ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่เด็กนักเรียนให้ครอบคลุมและทั่วถึงที่สุด เพื่อรองรับการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน และเพื่อให้นักเรียนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถกลับเข้าเรียนออนไซต์หรือที่โรงเรียนได้เร็วที่สุด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีขอให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามและดูแล อย่าให้เวชภัณท์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดโควิด-19 ขาดแคลน ล่าสุด องค์การเภสัชกรรมจึงจะนำชุดตรวจ ATK เพื่อตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองแบบง่าย มาจำหน่ายให้แก่ประชาชนในราคา 35 บาทต่อชุด จำนวน 3 ล้านชุด จะเริ่มจำหน่ายวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 โดยซื้อผ่านร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 สาขา และทางออนไลน์ เริ่มจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
