นนทบุรี – นายอนุทิน ชาญวีรกูล นำผู้บริหารกระทรวงสาธาณสุข แถลงยืนยัน เตรียมพร้อมรับมือโอมิครอน ตลอดเวลาในทุกมิติ แต่ถ้าภาพรวมดีขึ้น จะเสนอ ศบค.ผ่อนคลายมาตรการ ด้านปลัดสาธารณสุข ชี้ ถ้าแนวโน้มดีต่อเนื่อง พร้อมพิจารณาลดระดับเตือนภัยโควิด จากระดับ 4 ลง และเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 แซนด์บ็อกซ์ให้ได้ 50% ใน 1-2 เดือน
วันที่ 14 มกราคม 2565 กระทรวงสาธารณสุข จัดแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความตื่นตระหนกของประชาชน
นายอนุทิน ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมตลอดเวลาในทุกมิติ เพื่อรับมือโควิด-19 แม้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ขณะนี้ผู้ป่วยอาการหนักต้องอยู่ไอซียู ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไม่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ผู้เสียชีวิตแต่ละวันตั้งแต่ปีใหม่ถึงขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง ไม่เกินวันละ 20 รายมาระยะหนึ่งแล้ว จึงทำให้ค่อนข้างมั่นใจ ประกอบกับข้อมูลวิชาการต่าง ๆ ก็ค่อนข้างแนวเดียวกันว่า เชื้อโอมิครอน แม้จะติดเชื้อง่ายแต่ความรุนแรงไม่เท่าเดลตา
ถ้าสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น สธ.จะเร่งขอให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขที่สุด แต่หากสถานการณ์มีความรุนแรงหรือสุ่มเสี่ยงมากขึ้น ก็พร้อมจะเสนอมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีการระบาดสะสมเกือบ 320 ล้านคน แต่ผู้เสียชีวิตเริ่มลดลง โดยเสียชีวิตสะสมประมาณ 5.5 ล้านคน สำหรับประเทศไทย แนวโน้มการติดเชื้อในประเทศ 14 วัน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงแรกของเดือน ม.ค. แต่ขณะนี้ค่อนข้างทรงตัว และอาจลดลงได้ ส่วนผู้ป่วยหนักมีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกัน ขณะที่ผู้ป่วยหนักใส่ท่อช่วยหายใจก็ลดลงมาก
ส่วนการเตือนภัยโรคโควิด ขณะนี้อยู่ในระดับ 4 คือ ให้ประชาชนนอกจากการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาลแล้ว ยังให้ลดเข้าสถานที่เสี่ยง และชะลอการเดินทาง ซึ่งจะพิจารณาในระยะถัดไปว่า หากสถานการณ์ดีขึ้นจะลดระดับการเตือนภัยลง
สำหรับการฉีดวัคซีนสะสมวันนี้ อยู่ที่ 108,594,507 โดส ถือว่าฉีดได้มาก โดยต้นปีได้ปรับฐานประชากรใหม่จากกระทรวงมหาดไทย โดยเข็มที่ 1 ครอบคลุมประชากร 76.92% เข็ม 2 ครอบคลุม 70.32% เข็ม 3 ครอบคลุม 13.63% ซึ่งเข็ม 3 ขึ้นเร็วมาก เมื่อวานฉีดมากถึง 337,033 โดส เข็มที่ 3 นี้ อยากให้พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวหรือแซนด์บ็อกซ์ ถึง 50% โดยเร็วใน 1-2 เดือนนี้ หากเร่งฉีดวัคซีนได้ ถือว่าประเทศปลอดภัยอีกระดับหนึ่ง
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังเปิดเผยแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกมกราคม 2565 (โอมิครอน) แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย
1.มาตรการสาธารณสุข ชะลอการระบาด ระบบสาธารณสุขดูแลได้ ฉีดวัคซีน เพิ่มภูมิต้านทานให้ประชาชน และคัดกรองตนเองด้วย ATK หากใครมีความเสี่ยงมากให้ตรวจ ATK สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากมีความเสี่ยงน้อยคัดกรองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง และติดตามเฝ้าระวังการกลายพันธุ์
2.มาตรการการแพทย์ มีระบบสายด่วนประสานผู้ติดเชื้อ เน้นการดูแลที่บ้าน Home Isolation เพราะโรคไม่ร้ายแรง อาการน้อยมากเกือบ 90% และมีระบบการติดตาม คอยดูแลจากโรงพยาบาล โทร.สายด่วน 1330 หรือคอลเซนเตอร์ในระดับจังหวัด แต่หากดูแลที่บ้านไม่ได้ สามารถดูแลผ่านศูนย์ระดับชุมชน Community Isolation หากอาการรุนแรงขึ้นจะส่งโรงพยาบาล
3.มาตรการสังคม ประชาชนใช้การป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด หรือ Universal Prevention สถานบริการปลอดความเสี่ยงโควิด โดยการทำ Covid Free Setting ซึ่งทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ที่สำคัญขอให้ชะลอการเดินทางช่วงนี้
4.มาตรการสนับสนุน ค่าบริการรักษาพยาบาลและค่าตรวจต่าง ๆ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน ช่วยกันทำ VUCA คือ V-Vaccine, U-Universal Prevention, C-Covid-19 free setting และ A-ATK สำหรับชุดตรวจ ATK ที่ขาดแคลน องค์การเภสัชกรรมจัดหาและเตรียมไว้สัปดาห์ละ 1 ล้านชุด ในราคาชุดละ 35 บาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: