กรุงเทพฯ – วงการบันเทิงอาลัย สูญเสีย ‘เศรษฐา ศิระฉายา’ เสียชีวิตในวัย 77 ปี หลังเข้ารักษาตัวจากโรคมะเร็งปอด ระยะที่ 4
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ข่าวเศร้าวงการบันเทิง เมื่อ อาต้อย ‘เศรษฐา ศิระฉายา’ นักแสดงอาวุโส และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ.2554 จากไปอย่างสงบ ในวัย 77 ปี เมื่อเวลา 04.42 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 เช้ามืดวันนี้
หลังกลับเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 เพื่อทำคีโม ที่โรงพยาบาลอีกรอบ
‘อี๊ฟ พุทธธิดา’ ลูกสาวคนเดียวของ อาต้อย และอรัญญา นามวงศ์ ได้โพสต์รูปท้องฟ้า และเขียนแคปชั่นว่า 4.42 ในอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนในแวดวงการบันเทิง ที่โพสต์อาลัย ต่อการจากไปของบุคคลสำสัญในวงการบันเทิงครั้งนี้
ประวัติ
ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา เกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2487
จบมัธยมตอนปลาย โรงเรียนวัดบวรนิเวศเศรษฐา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ หลักสูตรโครงการพิเศษ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปี ด้วยการขนเครื่องดนตรี ตามคำชักชวนของน้าชาย ‘สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์’ อดีตพระเอกภาพยนตร์ชื่อดังในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ต่อมา ได้ฝึกหัดทักษะด้านดนตรีแบบครูพักลักจำ กระทั่งขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่าง ๆ และรวมตัวกับเพื่อน ๆ นักดนตรีตั้งวงดนตรี Holiday J-3 ร่วมกับวินัย พันธุรักษ์, พิชัย ทองเนียม, อนุสรณ์ พัฒนกุล และสุเมธ อินทรสูต ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น Joint Reaction ก่อนเปลี่ยนอีกครั้งเป็น The Impossibles (ดิ อิมพอสซิเบิ้ล) และเป็นนักร้องนำ
พ.ศ.2512 ดิ อิมพอสซิเบิ้ล คว้าถ้วยพระราชทาน รางวัลชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จนเป็นที่นิยมและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่วงดนตรีหลายวงที่กำเนิดขึ้นในยุคต่อมา มีเพลงดังที่กลายเป็นเพลงอมตะสามารถสะกดผู้ฟังได้มากมาย อาทิ ทะเลไม่เคยหลับ ไหนว่าจะจำ หนาวเนื้อ เป็นไปไม่ได้
เศรษฐาและเพื่อน ๆ ในวง ได้เข้ามาสัมผัสโลกภาพยนตร์ครั้งแรก จากการได้รับการทาบทามจาก เปี๊ยก โปสเตอร์ ให้มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องโทน ในปี 2513
ดิ อิมพอสซิเบิ้ล ยังชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบอีก 2 ครั้งติดต่อกัน และได้บรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ ดวง, สวนสน, ระเริงชล, ตัดเหลี่ยมเพชร จนโด่งดัง
ปี 2518 เศรษฐาได้รับการชักชวนจาก จุรี โอศิริ ให้มาแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจังครั้งแรก เรื่อง ฝ้ายแกมแพร (2518) ด้วยความสามารถ ทำให้ได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในทันที
ปี 2519 ดิ อิมพอสซิเบิ้ล ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ เศรษฐาจึงก้าวเข้าสู่วงการแสดงอย่างเต็มตัว มีบทบาทโดดเด่นทั้งการเป็นนักแสดงและพิธีกรดัง เป็นดารามากฝีมือคนหนึ่งของวงการ
ปี 2522 ได้แสดงภาพยนตร์ เรื่องชื่นรัก เป็นพระเอกประกบคู่กับ อรัญญา นามวงศ์ นางเอกชื่อดัง ซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ชีวิตกันในเวลาต่อมา และมีบุตรีเพียงคนเดียว คือ อี๊ฟ-พุทธธิดา ศิระฉายา
ปี พ.ศ.2554 อาต้อย เศรษฐา ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง)
อาการป่วย
กลางปี 2562 เศรษฐาตรวจพบเป็นโรคมะเร็งปอด ได้เข้ารับการรักษานับตั้งแต่นั้นมา ต่อมา ปี 2564 ติดเชื้อโควิด-19 และเชื้อลงปอด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายสัปดาห์ และหายจากโควิด ได้กลับบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีหลานชายตัวน้อยเป็นกำลังใจอยู่ไม่ห่าง
ต่อมา ต้องกลับไปทำคีโมอีกครั้งเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา หลังจากหยุดพักไป 3 เดือน กระทั่งเสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: