กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุ รายละ 3,000 บาท เพิ่มอีก 57,455 หมื่นราย (เสียชีวิตมากกว่าที่คาดไว้เดิม) พร้อมย้ำหลักเกณฑ์ การขอรับเงินสงเคราะห์ฯ
วันที่ 15 มีนาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 172.36 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุตามประเพณี รายละ 3,000 บาท ในปี 2564 เพิ่มเติม จำนวน 57,455 คน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ เนื่องจาก ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.64 มีจำนวนผู้สูงอายุเสียชีวิตสูงถึง 127,168 คน ซึ่งมากกว่าจากที่คาดการณ์ไว้ที่ 69,713 คน พม.จึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบดังกล่าว
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก ยังกล่าวถึง หลักเกณฑ์การขอรับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพตามประเพณี ดังนี้
1.ผู้เสียชีวิตอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2.สัญชาติไทย
3.มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
4.ผู้สูงอายุซึ่งอยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใด ๆ ของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดำเนินการจัดการศพตามประเพณี โดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์
ผู้ยื่นคำขอ (ครอบครัวผู้เสียชีวิต ญาติผู้รับผิดชอบจัดการศพ) จะต้องยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร พร้อมกับเอกสารสำคัญ เช่น ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุหรือหนังสือรับรอง บัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ (เพื่อโอนเงิน)
กรณีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานเขต
ส่วนจังหวัดอื่นๆ ให้ยื่นคำขอในท้องที่ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล
