กรุงเทพฯ – กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจง ทุกจังหวัดยังมียาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลือในคลังยา สัปดาห์นี้จะกระจายเพิ่มอีก 15 ล้านเม็ด แต่บางพื้นที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มต้องใช้ยามากขึ้น จึงทำให้การบริหารจัดการยาไม่คล่องตัว ขอความร่วมมือใช้ยาตามแนวทางการรักษาอย่างสมเหตุ
วันที่ 28 มีนาคม 2565 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงข่าวยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ไม่เพียงพอ โดยยืนยันขณะนี้ประเทศไทยยังมียาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งองค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดหา ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565 องค์การเภสัชกรรมตั้งเป้าผลิตและจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เข้ามารวม 128.1 ล้านเม็ด เฉพาะช่วงวันที่ 1-28 มีนาคม 2565 ได้มากถึง 73.9 ล้านเม็ด ส่งกระจายยาให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ 72.52 ล้านเม็ด
ข้อมูลถึงวันที่ 28 มีนาคม 2565 คงเหลือยาทั่วประเทศ 22.87 ล้านเม็ด โดยพื้นที่กรุงเทพมหานคร มียาคงเหลือมากที่สุด 5.12 ล้านเม็ด รองรับผู้ป่วยได้ 1.02 แสนราย ขณะที่จังหวัดอื่น ๆ มียาคงเหลือเพียงพอรองรับผู้ป่วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ส่วนกลางได้จัดหาและกระจายยาให้แก่ทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดยช่วงวันที่ 29 มีนาคม-2 เมษายน จะมียาอีก 15 ล้านเม็ด วันที่ 3-9 เมษายน 11.6 ล้านเม็ด และวันที่ 10-16 เมษายน อีก 20 ล้านเม็ด
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร ย้ำว่า ทุกจังหวัดได้รับการกระจายยาฟาวิพิราเวียร์อย่างต่อเนื่อง แต่ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บางพื้นที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การบริหารจัดการยาไม่คล่องตัว หากโรงพยาบาลใดพบแนวโน้มว่า ยาฟาวิพิราเวียร์จะไม่พอใช้ สามารถแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อบริหารจัดการยาให้โรงพยาบาลมีใช้อย่างต่อเนื่องได้
สำหรับการใช้ยาจะเป็นไปตามแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์ ที่กำหนดโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหลักการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล หากผู้ป่วยไม่มีอาการหรือไม่มีความเสี่ยง จะไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ยารักษาตามอาการหรือยาฟ้าทะลายโจร
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังจัดหายารักษาอื่น ๆ ได้แก่ ยาเรมดิซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับแพทย์พิจารณาในการรักษาผู้ป่วยให้เหมาะสมกับอาการและปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยด้วย
