กรุงเทพฯ – วันที่ 2 เทศกาลสงกรานต์ 65 มีผู้เสียชีวิต 47 คน บาดเจ็บ 292 คน สะสม 2 วัน เสียชีวิต 73 คน บาดเจ็บ 530 คน นครราชสีมา-อยุธยา มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด จังหวัดละ 4 คน ปภ. ชี้ สาเหตุเสียชีวิตหลัก เกิดจากการขับรถเร็วและไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย
วันที่ 13 เมษายน 2565 ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 12 เมษายน 2565 (วันที่ 2 ของช่วง 7 วันอันตราย) เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 47 คน บาดเจ็บ 292 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 36.88, ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.25
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.94, รถกระบะร้อยละ 6.15 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.20, ถนนใน อบต. หรือหมู่บ้าน ร้อยละ 34.88 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.72 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เวลา 17.01-18.00 น. ร้อยละ 9.97 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 20.94 ขณะที่พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน (วันที่ 11-12 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 538 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตสะสม 73 คน และผู้บาดเจ็บสะสม 530 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (24 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมาและพระนครศรีอยุธยา (จังหวัดละ 4 คน) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช (26 คน) สำหรับจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 34 จังหวัด
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้ มีการเรียกตรวจยานพาหนะ 400,647 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 72,886 คน มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,731 คน ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,136 คน
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการ ศปถ. ระบุว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่าสาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ทำให้ดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุสูง ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุค่อนข้างสูง
จึงให้จังหวัดวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ประกอบกับในวันนี้ คาดการจราจรบนถนนสายหลัก จะมีปริมาณรถไม่หนาแน่น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ จึงกำชับให้จังหวัดกวดขันการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ รถตู้โดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
ขอบคุณภาพจาก : อาสากู้ภัย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: