นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ระบุว่า กรมฝนหลวงฯ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 11 หน่วยฯ ทั่วประเทศ ยังคงวางแผนและเดินหน้าปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่มีความต้องการน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีปริมาณน้ำเพียงพอ ทั้งด้านการเกษตร การอุปโภค-บริโภค และด้านอื่น ๆ
โดยช่วงนี้ เน้นภารกิจเติมน้ำให้กับเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อรองรับการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากเขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนกักเก็บน้ำสำหรับการจัดสรรเพื่อการเกษตร และการผลิตกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอในภาคเหนือ ส่วนเขื่อนสิริกิติ์เป็นเขื่อนที่เก็บน้ำเพื่อกระจายไปยังพื้นที่เพาะปลูกในทุ่งราบ 2 ฝั่งแม่น้ำน่าน กับพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยา ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง จากข้อมูลปริมาณน้ำในเขื่อน (19 เม.ย. 2565) พบว่า ทั้ง 2 เขื่อนมีปริมาณน้ำใช้การต่ำกว่า 50% จึงวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าว
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวต่อว่า ผลปฏิบัติการฝนหลวงช่วงวันที่ 16-19 เม.ย.65 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก พิษณุโลก และจ.แพร่ ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง และติดตามข้อมูลข่าวสารของ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ ที่ช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
