กรุงเทพฯ – 6 ผู้สมัคร แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. งัดสารพัดกลยุทธ์-วาทกรรม-ผู้สนับสนุนคนสำคัญ จัดปราศรัยใหญ่ปิดท้ายเก็บคะแนนเสียง
วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) บรรดาผู้สมัคร ผู้ว่า กทม. ที่เป็นตัวเก็ง พากันงัดกลยุทธ์ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ เรียกเสียงจากผู้สนับสนุน แต่ก็มีที่แปลกแหวกแนว ใช้วิธีเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไปยังย่านเศรษฐกิจต่าง ๆ กลางกรุง เพื่อพบปะและหาเสียงในหมู่คนจำนวนมาก
‘วิโรจน์’ ชู เป็นผู้ว่าฯ เพื่อคนจน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่มิวเซียมสยาม มีผู้นำพรรค เช่น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคก้าวไกล, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง พร้อมผู้สมัคร ส.ก.พรรคก้าวไกล ทั้ง 50 เขต ร่วมปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย โดยนายวิโรจน์ ย้ำนโยบายเพิ่มสวัสดิการเด็กและผู้สูงวัย จะขอเปิดให้ กทม. เปิดเผยสัญญารถไฟฟ้าบีทีเอส และแก้ภาระหนี้สินติดค้างบีทีเอส อยู่ประมาณ 37,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันดอกเบี้ยเดินกลายเป็น 39,000 ล้านบาท เพื่อปลดแอกภาระจำยอมต่อสัมปทาน รวมถึงจะแก้ไขข้อบัญญัติและงบประมาณอย่างเต็มกำลัง
‘สกลธี’ สัญญาต่อหน้าพระเจ้าตากฯ จะทำกรุงเทพฯ ให้ดีกว่าเดิม
นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 อิสระ ขึ้นปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ณ บริเวณวงเวียนใหญ่ เปิดทุกความรู้สึกอึดอัด ที่เห็นทุกปัญหามาตลอด 4 ปี จากประสบการณ์ทำงานเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา สัญญาต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากฯ จะทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นมา จะไม่ยอมให้คอร์รัปชั่นในระบบราชการไทยอยู่เหนือชีวิตของคนกรุงเทพฯ ที่ทำให้กรุงเทพฯ ไม่เดินหน้าไปไหน
‘สุชัชวีร์’ เสนอพลิก 4 วิกฤติ เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยมี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่า กทม.ร่วมปราศรัย พร้อมผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต ทั้งนี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ ได้สรุปปัญหา กทม.เป็น 4 วิกฤติ ประกอบด้วย
1.วิกฤตจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยจากน้ำท่วม
2.ความล้าหลังด้านเทคโนโลยี
3.ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
4.การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ
พร้อมข้อเสนอที่จะพลิกวิกฤติเหล่านี้ เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.
‘อัศวิน’ ลั่น ‘ปิดจ๊อบความจน’ เพื่อคนกรุงเทพฯ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 6 พร้อมผู้สมัคร ส.ก.กลุ่มรักษ์กรุงเทพ 46 เขต และผู้สนับสนุน อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม. ซึ่งเป็นลูกชาย ขึ้นเวทีปราศรัย ประกาศคีย์เวิร์ดสำคัญก่อนวันเลือกตั้ง “หยุดลังเล แล้วเทคะแนนให้เบอร์ 6 อัศวิน ขวัญเมือง” บนเวทีปราศรัยใหญ่ ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก พร้อมประกาศนโยบายสำคัญเร่งด่วน ที่ตรงกับสถานการณ์ ซึ่งทุกคนต่างได้รับผลกระทบเรื่องเศรษฐกิจและโควิด-19 โดยจะเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน ปิดจ๊อบความจน เพื่อคนกรุงเทพฯ
‘ชัชชาติ’ ประกาศ พร้อมเป็น ‘ผู้ว่าฯ ของทุกคน’
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 อิสระ หาเสียงโค้งสุดท้าย ด้วยการตระเวนแบบดาวกระจายช่วงค่ำ พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของ กทม.4 จุด คือ สยามสแควร์ สีลม เยาวราช และข้าวสาร ด้วยจุดมุ่งหมายเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้ประกอบการ เป็นไปด้วยความคึกคัก โดย ดร.ชัชชาติ ประกาศตัวว่า พร้อมเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน สัญญาว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง
‘ศิธา’ ประกาศ หนุนคนตัวเล็ก นำทีมสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และผู้บริหารพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายด้วย น.ต.ศิธา ระบุว่า คนยากคนจนเดือดร้อนมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเจอวิกฤตอย่างหนัก ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดกับคนตัวเล็ก หากคนตัวเล็กอยู่ไม่ได้ คนตัวใหญ่ ข้าราชการ ทหาร ก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน พรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายสร้างให้คนตัวเล็กสามารถอยู่ได้ มีรายได้อย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องส่งคนลงทำหน้าที่ ผู้ว่าฯ กทม. เพราะเข้าใจปัญหา และต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทุกคน
