กรุงเทพฯ – รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ต่างชาติยังคงสนใจลงทุนในไทย 4 เดือนแรก ปี 65 ขออนุญาต 196 ราย ส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ มี 28,083 ราย
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงการอภิปราย ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเนื้อหาบางส่วนมีการวิจารณ์จาก ส.ส.ฝ่ายค้านว่า โรงงานอุตสาหกรรมย้ายฐานการผลิต เพราะไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจว่า หากดูตัวเลขจริงจะพบว่า ประเทศไทยยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งภายใต้สถานการณ์โควิด-19
เห็นได้จาก ในช่วง 4 เดือนแรกปี 2565 (ม.ค.- เม.ย.) มีจำนวนนักลงทุนต่างชาติขออนุญาตประกอบธุรกิจ 196 ราย เม็ดเงินลงทุนรวม 3.6 หมื่นล้านบาท ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) อาทิ บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น บริการขุดเจาะปิโตรเลียม บริการตรวจสอบ ซ่อมแซมสินค้าประเภทเครื่องมือแพทย์ บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า บริการรับจ้างผลิตและประกอบรถยนต์
และถ้าดูตัวเลขจำนวนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ก็จะพบแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน คือ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ตัวเลขระหว่างเดือนม.ค.- เม.ย.ปีนี้ มีบริษัทจดทะเบียนตั้งใหม่ทั่วประเทศ รวม 28,083 ราย คิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียน 245,497 ล้านบาท สิ่งนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและโอกาสเติบโตในระยะยาวของไทย ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในมิติต่าง ๆ จากภาครัฐ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก ระบุด้วยว่า ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 นี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์เสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ รัฐบาลได้เสนอของบประมาณไว้ที่ 3.96 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเป้าหมายอาทิ มุ่งเป้าเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง งบประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ 1.18 แสนล้านบาท เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 1.1 หมื่นล้านบาท จุดหมายการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและยั่งยืน 7.27 พันล้านบาท เป็นต้น
จึงหวังว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2566 จะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งนี้
