กรุงเทพฯ – กฟผ. โชว์แนวทาง-ศักยภาพส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ด้วยการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ตอบโจทย์ Carbon Neutrality เตรียมดัน ‘เขื่อนศรีนครินทร์’ และ‘เขื่อนวชิราลงกรณ’ ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง
วันที่ 24 มิถุนายน 2565 นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวของ กฟผ. ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ว่า ด้วยศักยภาพของ กฟผ. จากการมีเขื่อนและโรงไฟฟ้าที่มีสถานที่ตั้งอยู่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงดำเนินการด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน 2 ด้าน คือ
1.การยกระดับเศรษฐกิจชุมชนจากการท่องเที่ยว
2.การมุ่งสู่เมืองท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ภายใต้กรอบแนวคิดที่ต้องการสร้างมูลค่าและคุณค่าให้แก่ทรัพยากร ทั้งสังคม ชุมชน และวัฒนธรรมในท้องถิ่น การยกระดับเศรษฐกิจชุมชน การลดคาร์บอนและดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงการร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ ชุมชน หน่วยงานราชการในพื้นที่ ภาคธุรกิจ และเอกชนในจังหวัดและเครือข่ายระดับประเทศ
นโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนนี้ กฟผ. มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) ภายใต้โครงการ EGAT Green TIME Tourism ซึ่งหมายถึง “ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายCarbon Neutrality ของประเทศไทย” ด้วยการเตรียมความพร้อมของพื้นที่ กฟผ. การสร้างคุณค่าร่วมกับพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมสู่เมืองคาร์บอนต่ำ การมองหาโอกาสทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และการสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ ให้คนในท้องถิ่น
โดย กฟผ. เสนอให้ จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ Quick Win เพื่อเป็นเขตสาธิตการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ซึ่งปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ดำเนินการปรับปรุงที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และจุดท่องเที่ยวส่งเสริมการลดคาร์บอน มีจุดติดตั้ง Sensor ตรวจวัด PM2.5 จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EleX by EGAT มีการทดลองใช้จักรยานไฟฟ้า (EV Bike) และเรือไฟฟ้า (EV Boat) ในบริเวณเขื่อน
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านต้นแบบประหยัดพลังงาน (Smart Home) เพื่อเตรียมให้บริการนักท่องเที่ยว รวมถึงอยู่ระหว่างการเตรียมโครงการ Wellness Club ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุและกลุ่มคนรักสุขภาพ สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ความสำคัญ รวมถึงมีการพัฒนาเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพอีกหนึ่งแห่ง ที่สามารถขับเคลื่อนสู่เขตสาธิต การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำไปพร้อมกัน
ผู้ว่าการ กฟผ. กล้าวด้วยว่า ปัจจุบัน เขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. 12 แห่ง ทั่วประเทศ ได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA Plus (Amazing Thailand Safety and Health Administration Plus) ซึ่งการันตีมาตรการทางสาธารณสุขในการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว มีจุดท่องเที่ยวและทัศนียภาพที่สวยงาม พร้อมให้บริการที่พัก ร้านอาหาร และห้องประชุม และเตรียมยกระดับบางแห่งสู่การให้บริการตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมการท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ “คุณสายชลวิลล่า” ซึ่งประกอบไปด้วย ร้านกาแฟคุณสายชลในพื้นที่เขื่อนทั่วประเทศ ศูนย์การเรียนรู้ 7 แห่งอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างเพิ่ม 1 แห่ง ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงให้ความรู้ด้านพลังงานและไฟฟ้าของประเทศหลากหลายรูปแบบและน่าสนใจ ประชาชนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อีกทั้งยังมีการศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำร่วมกับพันธมิตร เช่น องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี ผู้ประกอบการการท่องเที่ยว และชุมชน เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน
