กรุงเทพฯ – ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมหารือการฉีดวัคซีนโควิด ในเด็กกลุ่มอายุ 6 เดือน – 5 ปี ถ้าผ่านการอนุมัติจาก อย. ชี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน สายพันธุ์โอมิครอน BA.4/BA.5 แพร่เร็ว-รุนแรงขึ้น แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้
วันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 พบตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ประเด็นที่กังวลว่าโรคจะแพร่เร็วจนไม่สามารถควบคุมได้นั้น พบว่าในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ แพร่เร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม 1.3-1.4 เท่า แต่ประเทศอื่นในยุโรปยังพบว่าแพร่ได้น้อยกว่า ดังนั้น เรื่องความเร็วในการแพร่เชื้อจึงยังไม่มีความชัดเจน ส่วนในประเทศไทย จากการส่งตรวจสายพันธุ์ ยังพบสัดส่วนในคนต่างชาติมากกว่าคนไทย และจากการเฝ้าระวัง ขณะนี้ยังไม่พบเรื่องการทำให้เกิดอาการรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลมากขึ้น
“สิ่งสำคัญ คือ พบว่า BA.4 และ BA.5 ทำให้ภูมิต้านทานเชื้อลดลงบ้าง จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่ม โดยผู้ที่ฉีด 3 เข็มแล้ว หากถึงระยะเวลาที่แนะนำ คือ 4 เดือน ควรมาฉีดกระตุ้นซ้ำ เพราะมีข้อมูลในต่างประเทศว่า ผู้ป่วยจากสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ถ้าได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นอาการจะน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีด ซึ่งชัดเจนว่าวัคซีนยังได้ผลในการป้องกันอาการหนักและเสียชีวิต” นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าว
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังคาดว่า การขับเคลื่อนโควิด-19 สู่ระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) หลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 จะเป็นไปตามแผน ซึ่งการระบาดใหญ่ในประเทศไทยคงไม่มีแล้ว โรคลดความรุนแรงลง และระบบสาธารณสุขรองรับได้ แต่อาจมีเป็นคลัสเตอร์ขึ้นมาบ้างแล้วลดลงไป ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุม ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม มีระบบเฝ้าระวังและเตรียมการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยหนักและใส่ท่อช่วยหายใจ รวมถึงยังต้องฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง ซึ่งยังเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อและเสียชีวิตที่สำคัญ ขณะนี้สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมเกือบ 140 ล้านโดสแล้ว มีประชาชนได้ฉีดเข็มแรก 60 ล้านคน
สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ฉีดได้แล้วในประเทศไทย ถ้าได้รับการอนุมัติจาก อย.ไทยแล้ว จะหารือถึงเวลาและรูปแบบการฉีดที่เหมาะสมต่อไป
