กรุงเทพฯ – กฟผ. เตรียมมาตรการ รองรับแหล่งก๊าซธรรมชาติพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) ซ่อมบำรุงประจำปี ต้องหยุดจ่ายก๊าซฯ ตั้งแต่วันที่ 1-14 สิงหาคม 2565 ยืนยัน ไม่ส่งผลต่อการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในภาคใต้ ร่วมประหยัดพลังงานช่วงเวลา 18.00-21.30 น.
วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 นายกิตติ เพ็ชรสันทัด รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือ JDA-A18 ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำหนดซ่อมบำรุงรักษาประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1-14 สิงหาคม 2565 รวม 14 วัน ส่งผลให้ไม่สามารถส่งจ่ายก๊าซฯ ให้แก่โรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ได้ตามปกติ
กฟผ. ได้เตรียมความพร้อม โดยให้โรงไฟฟ้าจะนะเปลี่ยนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซฯ มาใช้น้ำมันดีเซลทดแทน และเตรียมพร้อมมาตรการ 5 ด้าน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในภาพรวม ประกอบด้วย
♦ ด้านเชื้อเพลิง สำรองปริมาณน้ำมันดีเซลไว้สำหรับเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะนะให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานในช่วงเวลาหยุดจ่ายก๊าซฯ รวมทั้งมีแผนรองรับหากการทำงานล่าช้ากว่ากำหนด
ข่าวน่าสนใจ:
- กาญจนบุรี ลูกสุนัขติดถ้ำลึก 8 เมตรนาน 4 วัน พระ-กู้ภัย เข้าช่วยเหลือจนรอดชีวิต พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “น้องเจ้าถ้ำ”
- นนทบุรี นอภ.สาวแห่งบางใหญ่ สวมชุดนักรบ นั่งเสลี่ยงเปิดงานพระเจ้าตากครบรอบ 257 ปี
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
- ตำรวจลำปางเข้มจับจริงช่วงปีใหม่ 10 วัน อันตราย
♦ ด้านระบบผลิต เตรียมการให้โรงไฟฟ้าจะนะ เดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล พร้อมประสานโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ในภาคใต้ ได้แก่ โรงไฟฟ้าขนอม โรงไฟฟ้ากระบี่ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา เขื่อนบางลาง โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านสันติ และโรงไฟฟ้า SPP ให้เตรียมเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต ทำให้มีกำลังการผลิตรวม 2,914 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ ที่คาดการณ์ในช่วงเวลาการหยุดจ่ายก๊าซฯ ไว้ประมาณ 2,500 เมกะวัตต์ และในกรณีฉุกเฉินสามารถรับไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียได้ทันที
♦ ด้านระบบส่ง มีการส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงจากภาคกลางมายังภาคใต้อีก 800-1,100 เมกะวัตต์ ผ่านสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 กิโลโวลต์ (kV) บางสะพาน 2-สุราษฎร์ธานี 2-ภูเก็ต 3 อีกทั้งตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงและอุปกรณ์สำคัญให้พร้อมใช้งาน รวมถึงงดการทำงานบำรุงรักษาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง
♦ ด้านบุคลากร ได้จัดเตรียมทีมงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเข้าแก้ไขสถานการณ์ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
♦ ด้านผู้ใช้ไฟฟ้า กฟผ. ขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ร่วมกันประหยัดพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1-14 สิงหาคม 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลา 18.00-21.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด
“กฟผ. ได้จัดเตรียมมาตรการรองรับการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง JDA-A18 อย่างเต็มที่ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสามารถเข้าแก้ไขสถานการณ์กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้ทันที ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้จะมีความมั่นคงและเพียงพอ ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน” นายกิตติ เพ็ชรสันทัด กล่าวย้ำ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: