กรุงเทพฯ – อธิบดีกรมควบคุมโรค เผย สถานการณ์โควิด เริ่มคงตัว คาดผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต จะเริ่มลดลงใน 2 สัปดาห์ ย้ำ ผู้ติดเชื้อไม่ต้องรับยาต้านไวรัสทุกคน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่รักษา ชี้ หากกินยาไม่เหมาะสมอาจเสี่ยงดื้อยา ห่วงปรากฏการณ์ ‘Rebound คาด ยากำจัดเชื้อไม่หมด ทำให้เชื้อที่ซ่อนอยู่แบ่งตัวใหม่
วันที่ 1 สิงหาคม 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยว่า เป็นไปตามคาดการณ์ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เริ่มคงตัว ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตคงตัวและเริ่มมีแนวโน้มค่อย ๆ ลดลงใน 2-3 สัปดาห์
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ซึ่งขณะนี้การระบาดเป็นสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ค่อนข้างดื้อต่อวัคซีน การฉีดเข็มกระตุ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยลดการป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากฉีดเข็มล่าสุดมากกว่า 3-4 เดือนขึ้นไป สามารถไปฉีดเข็มกระตุ้นได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ศูนย์บริการสาธารณสุข ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนที่ผ่านมา มีวันหยุดยาวหลายวัน ประชาชนเดินทางกลับบ้านจำนวนมาก ต้องติดตามสถานการณ์ในต่างจังหวัดว่า จะมีการระบาดเพิ่มขึ้นหรือไม่ จึงขอให้ดำเนินการมาตรการ 2U คือ Universal prevention คือ มาตรการป้องกันตนเอง ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง และ Universal Vaccination ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิต
ข่าวน่าสนใจ:
นายแพทย์โอภาส กล่าวถึงการใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปหรือภูมิคุ้มกันออกฤทธิ์ชนิดยาว (Long Acting Antibody :LAAB) ว่า เหมาะกับประชาชนที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่ดี ฉีดพร้อมกันครั้งเดียว 2 เข็มบริเวณสะโพก อยู่ได้นาน 6 เดือน ข้อบ่งใช้ คือ ใช้ป้องกันล่วงหน้าก่อนรับเชื้อสำหรับคนที่ร่างกายตอบสนองภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือแพทย์ที่ดูแลคนไข้มองว่าควรรับ LAAB เบื้องต้นใช้ในเด็ก 12 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ฟอกเลือด ล้างไตหน้าท้อง และปลูกถ่ายไต เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเสียชีวิตสูง รวมถึงคนปลูกถ่ายอวัยวะและรับยากดภูมิคุ้มกัน เบื้องต้น สัปดาห์นี้จะกระจายครบ 7,000 โดสไปทุกจังหวัด และจะเข้ามาจนครบ 2.5 แสนโดสต่อไป ถ้าเร่งฉีดจะลดการเสียชีวิตได้
อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำว่า ผู้ติดเชื้อโควิดไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสทุกราย คนทั่วไปที่แข็งแรงฉีดวัคซีนครบถ้วน ส่วนใหญ่จะอาการน้อยก็ไม่จำเป็นต้องรับยาต้านไวรัส การจ่ายยาขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ตามมาตรฐานสากล
ยาต้านไวรัสเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง มีทั้งข้อดีข้อเสีย หากรับประทานไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม อาจเกิดผลข้างเคียงหรือการดื้อยาได้
ขณะเดียวกัน ขณะนี้พบปรากฏการณ์ใหม่ คือ การรีบาวนด์ (Rebound) เช่น กรณีนายโจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่รับยาต้านไวรัสแต่กลับมาพบเชื้อใหม่ สมมติฐานคืออาจเกิดจากรับยาต้านไวรัสเข้าไป และยาไม่สามารถกำจัดเชื้อในร่างกายของบางคนให้หมดไป พอหยุดยาเชื้อที่ซ่อนอยู่ก็กลับมาแบ่งตัวขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องติดตามรายละเอียดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: